คำแนะนำในการหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินคันไซ
ต้องหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถสัมผัสได้ในประเทศญี่ปุ่นขณะรอเที่ยวบินถัดไป
มีคำเปรียบเปรยที่ว่าห้องครัวนั้นเปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน
โอซาก้าที่ถูกเรียกกันเล่น ๆ ว่า “ครัวของประเทศ” นั้นมีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่ไม่มีวันหลับไหลของญี่ปุ่นในเรื่องอาหารที่ดูน่าทานและหลากหลายอย่างยิ่ง ชื่อเสียงด้านอาหารของโอซาก้ามีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และในทุกวันนี้ เมืองแห่งนี้ก็ยังคงเปรียบเสมือนแดนสวรรค์ของอาหารของญี่ปุ่นเสมอมา
โอซาก้าอยู่ใกล้กับทะเล ส่วนภูเขาใกล้เคียงนั้นก็ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นแหล่งวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มและการรับประทานอาหารชั้นเลิศ ร้านอาหารยอดเยี่ยมมากมายทั่วโอซาก้าต่างใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลต่าง ๆ ที่ผลิตภายในภูมิภาคและพื้นที่เกษตรกรรมโดยรอบอันอุดมสมบูรณ์
ชาวเมืองสามารถหาอาหารอร่อย ๆ ได้ตามย่านช้อปปิ้งหลายแห่งและย่านอาหารบาทวิถีที่อยู่ทางตอนใต้ของใจกลางเมืองโอซาก้า ย่านช้อปปิ้งที่จอแจและแผงอาหารกลางแจ้งเหล่านี้ดึงดูดฝูงนักท่องเที่ยวที่หิวจนท้องกิ่วจำนวนมหาศาลได้ด้วยเหตุผลดี ๆ นับพัน คุณจะได้เห็นเมนูญี่ปุ่นยอดฮิตต่าง ๆ อาทิ ทาโกะยากิ, หอยเชลล์ย่าง และโอโกโนมิยากิ อย่างไม่ขาดสาย และเหมาะสำหรับการชิมไปช้อปไปแบบร้านต่อร้านอย่างยิ่ง
อย่าลืมเผื่อท้องไว้สำหรับสเต๊กอร่อย ๆ ด้วย เนื้อวัวของญี่ปุ่นนั้นมีแหล่งผลิตอยู่ที่เมืองโกเบ (Kobe) ซึ่งอยู่ติดกับโอซาก้า ที่เมืองนี้ คุณสามารถลิ้มรสเมนูต่าง ๆ ที่มีเนื้อวัวคุณภาพสูงสุดเป็นดาวเด่นได้ที่โกเบเพลจีลล์ (Kobe Plaisir) และร้านมิโซโนะ (Misono)
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักชิมตัวยงหรือแค่อยากลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ ก็ตาม คุณควรเดินทางมายังโอซาก้าแห่งนี้ที่เป็นสุดยอดเมืองแห่งอาหารของโลก
แหล่งอาหารในโอซาก้า: ลิ้มรสอาหารบาทวิถีรสเด็ดได้ในย่านชินไซบาชิ, ตลาดคุโรมง และย่านโดทงโบริ
ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi), ตลาดคุโรมง (Kuromon Market) และย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ที่เป็นย่านช้อปปิ้งโด่งดังและศูนย์รวมอาหารของโอซาก้านั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานี Namba Station ช่วยทำให้คุณมีโอกาสได้ตระเวนชิมได้อย่างไม่ขาดสาย รวมถึงได้ช้อปปิ้งและชมวิวต่าง ๆ ได้อย่างหนำใจด้วย
ช้อปให้สุดและชิมให้หมดได้ในชินไซบาชิ
หลายศตวรรษมาแล้ว โอซาก้าได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่ง Kuidaore (กินจนตัวแหลก)” ด้วยอาหารที่ครบครันและหลากหลายของเมือง
ซึ่งในทุกวันนี้ ชื่อเล่นดังกล่าวก็ยังคงใช้ได้อยู่เสมอ เหล่านักท่องเที่ยวที่ท้องร้องสามารถอิ่มอร่อยไปกับแผงขายอาหารทั่วไป, ร้านซูชิแบบสายพาน รวมไปถึงร้านอาหารวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ ได้ทั่วโอซาก้า ที่ซึ่งคุณสามารถเลือกชิมได้ตามใจ และอะไรที่คุณเลือกนั้นก็จะอร่อยสุด ๆ อย่างแน่นอน
คุณยังมาไม่ถึงโอซาก้าหากคุณยังไม่ได้ไปย่านชินไซบาชิ ย่านแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางการช้อปปิ้งที่โด่งดังสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวที่จะได้สรรหาของขวัญและของที่ระลึกต่าง ๆ กัน และร้านส่วนใหญ่นั้นยังนำเสนอบริการช้อปแบบปลอดภาษีด้วย
ย่านแห่งนี้เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าหรูหรา, ร้านบูติกของคนท้องถิ่น, สถานที่ท่องเที่ยว, บาร์, ไนท์คลับ, ร้านอาหารและสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย ตั้งแต่แคทคาเฟ่, บาร์คาราโอเกะ ไปจนถึงร้านบาร์บีคิวญี่ปุ่นต่าง ๆ ที่มียากินิกุ (เนื้อย่าง) เป็นจุดขาย ซึ่งคุณสามารถหาร้านยากินิกุเด็ด ๆ ในโอซาก้าได้ที่ย่านชินไซบาชิแห่งนี้
ลิ้มรสหอยเชลล์ย่างรสเด็ดที่มีให้เลือกอย่างล้นหลามได้ในตลาดคุโรมง
หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของโอซาก้าก็คือตลาดคุโรมง ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งที่คับคั่งไปด้วยแผงขายอาหารกว่า 100 แห่งและร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวประมาณ 25 แห่ง ตลาดคุโรมงที่รู้จักกันในนามของครัวแห่งโอซาก้านั้นเป็นประวัติศาสตร์ด้านอาหารของโอซาก้ามาอย่างยาวนาน อันที่จริงแล้ว ตลาดแห่งนี้ได้เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวและเป็นแหล่งวัตถุดิบของร้านอาหารท้องถิ่นต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1822
ทุกวันนี้ ตลาดคุโรมงคือจุดหมายปลายทางสำคัญด้านอาหารบาทวิถีในโอซาก้า ซึ่งคุณจะหาเมนูพิเศษต่าง ๆ ของโอซาก้าอย่างหอยเชลล์ย่างได้ ที่ย่างกันบนเตาไฟแบบทั้งเปลือกกับเนยรสชาติหอมมันพร้อมเหยาะซอสถั่วเหลืองตัดเล็กน้อย อันทำให้เมนูนี้อร่อยเหาะจนผู้ที่ชื่นชอบอาหารทะเลและนักชิมอาหารไม่ควรพลาดอย่างเด็ดขาด
กระตุกต่อมรับรสของคุณด้วยทาโกะยากิ (อาหารทานเล่นกรุบกรอบคล้ายเกี๊ยว) ในย่านโดทงโบริ
โดทงโบรินั้นคือย่านที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด
ที่ซึ่งคุณจะได้พบเห็นป้ายโฆษณาแบบกลไกและไฟนีออนหลากสีสันเรียงรายอยู่ตามแนวคลองโดทงโบริ (Dotonbori Canal) ที่สร้างความมีชีวิตชีวาให้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้หลังช่วงเวลาทำงาน ย่านที่ไม่เคยหลับไหลแห่งนี้คือสถานที่สำคัญในการถ่ายภาพท่องเที่ยว พร้อมปลุกให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาได้ด้วยสัมผัสทางภาพ, เสียง และกลิ่นหอมอันโดดเด่นของอาหารญี่ปุ่นต่าง ๆ ที่ล่องลอยไปตามอากาศในทุกซอกทุกมุม
ย่านโดทงโบริที่สะกดทุกสายตานี้นำเสนอบางสิ่งบางอย่างที่ถูกปากคุณได้อยู่เสมอไม่ว่าคุณกำลังมองหาอาหารแบบใดอยู่ก็ตาม แหล่งยอดฮิตของโอซาก้าแห่งนี้คับคั่งไปด้วยแผงขายอาหารริมทาง, บาร์อันจอแจ และร้านอาหารที่น่าลิ้มลองที่เสิร์ฟเมนูพิเศษต่าง ๆ ของญี่ปุ่นอย่างทงคัตสึที่อร่อยที่สุดในโอซาก้าและทาโกะยากิที่ชวนให้น้ำลายสอ
ทาโกะยากิ หรือเกี๊ยวหมึกยักษ์ก้อนกลม นั้นเป็นอาหารบาทวิถียอดนิยมของโอซาก้าที่พบเห็นได้ทั่วเมืองตามย่านอาหารบาทวิถียอดฮิตต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงย่านโดทงโบริอันคึกคัก
อาหารทานเล่นที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นนี้มีชั้นนอกกรอบอร่อยที่ได้จากการทอดในพิมพ์เหล็กหล่อซึ่งเป็นหลุมลงไป เมนูทรงกลมนี้ทำด้วยดาชิ (Dashi) ซึ่งเป็นน้ำซุปแบบฉบับญี่ปุ่นที่มีรสกลมกล่อมหรืออูมามิแบบจัดจ้าน และชิ้นเนื้อนุ่ม ๆ ของหนวดหมึกยักษ์
ทาโกะยากิที่อร่อยสุด ๆ นี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามย่านอาหารบาทวิถียอดนิยมต่าง ๆ ของโอซาก้า และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้พบก้อนหมึกยักษ์ทอดนี้ในเมนูของบาร์ญี่ปุ่นต่าง ๆ เนื่องจากผู้คนมากมายทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่นั้นต่างชอบทานทาโกะนากิแกล้มกับเบียร์เย็น ๆ อันสดชื่น
อาหารที่ห้ามพลาดในโอซาก้า: โอโกโนมิยากิ พิซซ่าญี่ปุ่นแสนอร่อย
ไม่ต้องเติมซอสอื่นใด นอกจากโซสุ (Sosu)
นี่ไม่ใช่พิซซ่าทั่วไป เพราะมันคือโอโกโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่นที่มีรสชาติในแบบที่คุณจะไม่เคยได้ลิ้มลองจากที่ใด นอกเสียจากว่าคุณจะได้มีโอกาสสัมผัสเมนูญี่ปุ่นแสนอร่อยเมนูนี้มาก่อน
โอโกโนมิยากิแปลว่า “ย่างได้ตามใจคุณ” ซึ่งก็คือสิ่งที่คุณจะได้อย่างแท้จริงเมื่อสั่งเมนูโอโกโนมิยากิของคุณ
โอโกโนมิยากินั้นทำจากส่วนผสมหลักของไข่, กะหล่ำปลี และแป้งมันเทศ ที่ซึ่งคุณสามารถเพิ่มสิ่งต่าง ๆ เช่น เนื้อหมู, บะหมี่ หรืออะไรก็ตามที่ร้านมีให้ลงไปในเมนูอาหารทานเล่นนี้ได้ตามใจชอบ ทำให้คุณสามารถสั่งพิซซ่าญี่ปุ่นให้อร่อยในแบบของคุณเองได้ในโอซาก้า แล้วก็จะมีการราดมายองเนส, ซอสวุร์สเตอร์เชอร์สไตล์ญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า “โซสุ”, ปลาโอแถบแห้ง และสาหร่ายทะเลด้านบนก่อนเสิร์ฟให้ด้วย
คุณสามารถพบเมนูแสนอร่อยนี้ได้ตามร้านโอโกโนมิยากิทั่วไปหรือหาซื้อได้ตามหนึ่งในแผงขายโอโกโนมิยากิหลายแห่งตามท้องถนนที่อยู่ทั่วย่านอาหารบาทวิถียอดฮิตของโอซาก้า เช่น ย่านชินไซบาชิ, ตลาดคุโรมง และย่านโดทงโบริ
การไปยังย่านชินไซบาชิ, ตลาดคุโรมง และย่านโดทงโบริ
คุณสามารถไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตเหล่านี้และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมายได้อย่างง่ายดายจากสถานี Namba Station คุณสามารถนั่งรถไฟได้โดยตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเพื่อไปยังสถานี Namba Station ซึ่งขวบนรถด่วนพิเศษจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที
การรับประทานอาหารสไตล์คัปโปะไปจนถึงอาหารสดใหม่จากฟาร์ม: ประสบการณ์ที่ต้องลองสักครั้งหนึ่งในชีวิตเมื่อมายังโอซาก้า
แม้ว่าโอซาก้าจะขึ้นชื่อเรื่องอาหารบาทวิถีสุดอร่อย แต่ครัวแห่งประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ก็ยังขึ้นชื่อเรื่องประสบการณ์ด้านอาหารอันโดดเด่นมากมายที่มีตั้งแต่การรับประทานอาหารระดับหรูหราไปจนถึงอาหารสดใหม่จากฟาร์มต่าง ๆ
กระตุ้นต่อมรับรสของคุณด้วยการรับประทานอาหารสไตล์คัปโปะ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่เหล่านักชิมจะได้ชิดใกล้กับเชฟอย่างเต็มที่ หรืออิ่มอร่อยไปกับเนื้อวัวญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิ ทั้งจากเนื้อโกเบและเนื้อวากิวแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถพบกับเมนูทั้งหมดนี้ได้ในโอซาก้า
คัปโปะกับไคเซกินั้นต่างกันอย่างไร
เหล่านักชิมที่มีประสบการณ์อาจคุ้นเคยกับไคเซกิ ซึ่งเป็นวิธีการรับประทานอาหารอันสละสลวยที่นำเสนออาหารตามฤดูกาลแบบหลายคอร์สอันประณีตบรรจงและซับซ้อนราวกับเป็นผลงานศิลปะ
ถึงแม้ว่าคัปโปะนั้นจะคล้ายคลึงกับไคคเซกิ แต่เทคนิคการปรุงอาหารแบบคัปโปะก็มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดอยู่ เฉกเช่นเดียวกับไคเซกิ คัปโปะนั้นเป็นอาหารแบบหลายคอร์สที่ทำแบบตามใจเชฟที่ปรุงทั้งหมด ซึ่งมักก่อให้เกิดผลลัพธ์ในรูปแบบที่อร่อยเหาะ คัปโปะถูกจัดว่าเป็นไคเซกิแบบฉบับโอซาก้าที่เคร่งครัดน้อยกว่า
คำว่าคัปโปะที่แปลว่า “หั่นและปรุง” นั้นเป็นประเภทอาหารที่เป็นทางการน้อยกว่าที่เน้นไปที่ผู้รับประทานอาหารที่เรียงรายรอลิ้มรสกันอยู่และเชฟผู้ซึ่งเตรียมและปรุงอาหารเหล่านั้น
การรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ก่อให้เกิดประสบการณ์อันชิดใกล้ระหว่างเชฟกับผู้รับประทานอาหาร เมื่อลูกค้าที่มาอุดหนุนนั่งอยู่ตรงบาร์เคาน์เตอร์เพื่อดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ด้านอาหารในขณะที่เชฟเตรียมส่วนผสมสด ๆ และจัดแต่งชุดอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบตามฤดูกาลตรงหน้าของคุณ
ในยุคแรกเริ่มนั้น คัปโปะถูกจัดว่าเป็นอาหารสำหรับชนชั้นสูง ทุกวันนี้ คุณสามารถพบการรับประทานอาหารแบบฉบับคัปโปะได้ตามร้านอาหาร (ไม่ว่าจะเป็นแบบทางการหรือไม่ก็ตาม) รอบ ๆ โอซาก้า ที่ซึ่งเชฟจะได้รังสรรค์เสิร์ฟอาหารล้ำเลิศต่าง ๆ ตั้งแต่ซูชิไปจนถึงเนื้อวัววากิวเกรดพรีเมียมให้คุณได้ลิ้มลอง
จากอดีตสู่ปัจจุบัน: ความเฟื่องฟูของเนื้อวัวญี่ปุ่น สู่ความมีชื่อเสียงในโอซาก้า ไปจนถึงระดับโลก
คุณคงเคยมีโอกาสได้ยินคำว่าเนื้อวากิวกับเนื้อโกเบมาแล้วอย่างแน่แท้ บางทีคุณอาจเคยเห็นเนื้อสองชนิดนี้อยู่ในเมนูของร้านอาหารบางแห่งใกล้บ้านของคุณก็เป็นได้
แม้ว่าเนื้อทั้งสองแบบนั้นมักจะใช้แทนกันได้ แต่ก็มีความแตกต่างที่เด่นชัดระหว่างเนื้อโกเบกับเนื้อวากิวอยู่ แม้ว่าเนื้อทั้งสองแบบจะทำให้คุณน้ำลายสอเหมือน ๆ กันได้ และต่างเป็นเนื้อคุณภาพสูงเหมือนกันก็ตาม
ประวัติของเนื้อวากิวถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1880 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการนำปศุสัตว์สายพันธุ์ยุโรปเข้ามาในญี่ปุ่นและมีการผสมข้ามสายพันธุ์กันกับปศุสัตว์ในท้องถิ่น คำว่าวากิวหมายถึงวัวญี่ปุ่นสี่สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ญี่ปุ่นขนดำ (Japanese Black), พันธุ์ญี่ปุ่นขนน้ำตาล (Japanese Brown), พันธุ์โพลล์ญี่ปุ่น (Japanese Poll) และพันธุ์ญี่ปุ่นเขาสั้น (Japanese Shorthorn) ในทางกลับกัน เนื้อโกเบหมายถึงสายพันธุ์ที่เฉพาะเจาะจงของวากิว ซึ่งก็คือวัวสายพันธุ์ทาจิมะ (Tajima-Gyu)
วัวสายพันธุ์ทาจิมะถูกเลี้ยงด้วยมาตรฐานที่เข้มงวดในจังหวัดเฮียวโกะ (Hyogo Prefecture) ของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับโอซาก้า เนื้อโกเบขึ้นชื่อในเรื่องของความนุ่มของเนื้อและลวดลายหินอ่อนที่งดงามสะดุดตา
โดยสรุปแล้ว เนื้อโกเบจัดเป็นเนื้อวากิวประเภทหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อวากิวทุกประเภทนั้นเป็นเนื้อโกเบ
หาทานเนื้อโกเบได้ที่ไหนบ้างในโอซาก้า
เนื้อโกเบถูกเสิร์ฟเป็นครั้งแรกในช่วงกลางทศวรรษที่ 40 เมื่อเจ้าของร้านอาหารหนุ่มที่มีนามว่าชิเกจิ ฟูจิโอกะ (Shigeji Fujioka) ได้เปิดร้านอาหารทั่ว ๆ ไปที่มีชื่อว่ามิโซโนะ (Misono) เป็นร้านแรกในเมืองโกเบของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเวลากว่า 70 ปีมาแล้วที่มิโซโนะได้เสิร์ฟเนื้อโกเบคุณภาพสูงให้กับลูกค้าของทางร้านมาอย่างต่อเนื่องทั้งในโตเกียวและโอซาก้า
นอกจากนี้ คุณฟูจิโอกะยังเป็นคนแรกที่กำหนดคำว่าเทปันยากิขึ้นมา ซึ่งเป็นการย่างส่วนผสมต่าง ๆ บนแผ่นเหล็ก (ที่เรียกว่าเทปัน) ในสไตล์ที่โดดเด่นของเขาเอง ทุกวันนี้ คำว่าเทปันยากิได้ถูกบรรจุไว้ในพจนานุกรมฉบับอเมริกัน และร้านอาหารกับแผงอาหารทั่วประเทศญี่ปุ่นก็ต่างมีเมนูเทปันยากิให้บริการด้วยกันทั้งนั้น
ตราบจนถึงทุกวันนี้ ปศุสัตว์ที่เป็นแหล่งของเนื้อโกเบชื่อเสียงก้องโลกของญี่ปุ่นนั้นก็ยังคงถูกเลี้ยงในจังหวัดเฮียวโกะ ซึ่งเป็นที่ที่คุณจะได้พบกับร้านโกเบเพลจีลล์ (Kobe Plaisir) ซึ่งเป็นร้านอาหารวัตถุดิบสดใหม่จากฟาร์มที่ใช้ส่วนผสมท้องถิ่นที่ได้มาจากภายในภูมิภาคเฮียวโกะ ที่ร้านโกเบเพลจีลล์ เนื้อโกเบพรีเมียมจะถูกเสิร์ฟพร้อมกับผักสดท้องถิ่นนานาชนิด, สมุนไพร, สาเก และธัญพืช ซึ่งทำให้ร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านที่ต้องไปลิ้มลองท่ามกลางร้านอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นต่าง ๆ ของเมือง
ตระเวนชิมให้พุงกางไปเลย: วางแผนทริปไปโอซาก้าได้แล้ววันนี้
การมายังโอซาก้านั้นง่ายมาก แต่การเลือกร้านอาหารในเมืองนี้ต่างหากที่เป็นเรื่องยาก
ท่าอากาศยานนอกชายฝั่งแห่งแรกของโลกที่มีชื่อว่าท่าอากาศยานนานาชาติโอซาก้า หรือที่เรียกกันว่าท่าอากาศยานนานาชาติคันไซนั้นเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงทุกสิ่งที่โอซาก้ามีให้คุณได้อย่างง่ายดาย โอซาก้าเป็นเมืองศูนย์กลางที่ทำให้การเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงต่าง ๆ อย่างเช่นโกเบ, เกียวโต และนาระนั้นกลายเป็นเรื่องง่าย
เหล่านักท่องเที่ยวท้องร้องที่จะเดินทางมายังโอซาก้าจากเมืองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น “โตเกียว” นั้นสามารถใช้สิทธิประโยชน์ของ Japan Explorer Pass ซึ่งนำเสนอการเดินทางไปยังเมืองภายในประเทศต่าง ๆ กว่า 30 แห่ง ซึ่งรวมถึงโอซาก้าด้วย การเดินทางจากโตเกียวมายังโอซาก้าใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ซึ่งจะทำให้คุณมีเวลามากขึ้นในการสำรวจอาหารอันน่าทึ่งใน “เมืองแห่งการกินจนตัวแหลก (Kuidaore)” แห่งนี้ เริ่มต้นออกทริปตะลุยชิมที่ไม่มีวันลืมเลือนในโอซาก้าไปกับ Japan Airlines ได้แล้ววันนี้
ต้องหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถสัมผัสได้ในประเทศญี่ปุ่นขณะรอเที่ยวบินถัดไป
เริ่มต้นออกทริปตะลุยชิมที่ไม่มีวันลืมเลือนในโอซาก้าไปกับ Japan Airlines ได้แล้ววันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเต๊กชั้นเลิศจากฟาร์มในท้องถิ่นไปจนถึงสุดยอดอาหารทะเลสดใหม่ ออกสำรวจโอซาก้าซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์แห่งอาหารได้แล้ววันนี้
ต้องหยุดพักต่อเครื่องหลายชั่วโมงที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม สวนสาธารณะยาวเซ็นนังและจุดหมายปลายทางอันน่าตื่นเต้นอื่นๆ อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
แบ่งปัน
แบ่งปัน