คำแนะนำในการหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินคันไซ
ต้องหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถสัมผัสได้ในประเทศญี่ปุ่นขณะรอเที่ยวบินถัดไป
คุณกำลังจะเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซของโอซาก้าในเร็ว ๆ นี้รึเปล่า สำรวจสิ่งน่าทึ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่คุณสามารถทำและชมได้ในระหว่างการแวะพักเครื่องของคุณ หรือในกรณีที่คุณตัดสินใจเลือกที่จะพักที่เมืองแห่งนี้นานขึ้นอีกหน่อย มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ทำอีกมากมายในโอซาก้า นอกเหนือไปจากการไปเที่ยวในเมืองอันจอแจ ณ ใจกลางของโอซาก้า หากคุณมีเวลาไม่พอที่จะไปเที่ยวในเมืองโอซาก้า คุณสามารถสำรวจสถานที่งดงามอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ใช้เวลานั่งรถไฟจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ (KIX) เพียง 15 นาที
โอซาก้าขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารอร่อยนานาชนิดและวิถีชีวิตในเมืองอันคึกคัก แต่จุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในบทความนี้จะนำเสนอประสบการณ์ทางด้านวัฒนธรรมนอกกระแสที่อยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซในโอซาก้า อย่าลืมเตรียมรองเท้าสำหรับการเดินเอาไว้ด้วย เนื่องจากโอซาก้านั้นกว้างมากและคุณจำเป็นต้องเดินหากคุณต้องการไปชมทุกสิ่งทุกอย่าง
โอซาก้าเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปเป็นอันดับสองรองลงมาจากโตเกียว ซึ่งคุณสามารถสัมผัสทั้งสองเมืองได้ในทริปอันน่าทึ่งเพียงทริปเดียว ดังนั้น ถ้าหากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปยังโตเกียวแล้วล่ะก็ อย่าลืมเผื่อเวลาไว้สำหรับโอซาก้าด้วย ที่คุณสามารถบินจากโตเกียวมายังโอซาก้าด้วยเวลาหนึ่งชั่วโมงด้วย Japan Explorer Pass
ไม่ว่าคุณกำลังแวะพักเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองอื่น หรือกำลังจะเดินทางเข้าไปในตัวเมืองของโอซาก้าก็ตาม สถานที่เหล่านี้ล้วนมอบความเพลิดเพลินและเข้าถึงได้ง่าย ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ปราศจากการเบียดเสียดยัดเยียดของฝูงชน ใช้คู่มือนำเที่ยวนี้เพื่อดูวิธีการไปยังสถานที่ต่าง ๆ ดังกล่าวด้วยระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่
เดินเล่นไปรอบ ๆ ปราสาทคิชิวาดะที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน
หากคุณกำลังนึกอยู่ว่าจะไปชมอะไรดีในโอซาก้า คุณคงไม่ได้นึกถึงปราสาทเหล่านี้แน่ ๆ หากคุณอยากชมปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) แต่ไม่มีเวลาพอหรือไม่อยากไปเบียดเสียดกับฝูงนักท่องเที่ยวแล้วล่ะก็ ให้ลองไปยังปราสาทคิชิวาดะ (Kishiwada Castle) ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และมีสวนสวย ๆ ให้เดินเล่นได้ดู
ตัวปราสาทนั้นมีกำแพงหินโบราณให้สำรวจและห้องจัดแสดงในหอคอยของปราสาท ที่ซึ่งคุณสามารถชมสิ่งประดิษฐ์น่าทึ่งต่าง ๆ ที่แสดงอยู่ในห้องจัดแสดง, ฟังเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับปราสาทและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตัวปราสาทเองออดิโอไกด์ และแม้แต่ลองสวมเกราะซามูไร
แม้ว่าปราสาทนั้นถูกสร้างขึ้นแรกเริ่มในช่วงศตวรรษที่ 1300 แต่ปราสาทก็ได้รับการปฏิสังขรณ์เป็นเวลาหลายปี ในปี ค.ศ. 1953 สวนฮาชิจิน (Hachijin Garden) ถูกสร้างขึ้นโดยนักออกแบบสวนที่มีนามว่ามิเรอิ ชิเกะโมริ (Mirei Shigemori) สวนแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกแห่งชาติด้านความงดงาม (National Site of Scenic Beauty) ในปี ค.ศ. 2014 แต่สิ่งที่ดีที่สุดเหนืออื่นใด การเดินทางมายังปราสาทคิชิวาดะนั้นใช้เวลาเพียง 10 นาที หากคุณนั่งรถไฟสาย Nankai Line จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเพื่อมายังสถานี Takojizo Station ซึ่งคุณต้องเดินจากสถานีดังกล่าวไปอีกประมาณห้านาทีเพื่อไปยังปราสาท
พักจิตพักใจไปกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างวัดมิซุมาเดะระ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักใจให้สงบระหว่างที่แวะพักเครื่องที่โอซาก้าแล้วล่ะก็ วัดมิซุมาเดะระ (Mizumadera Temple) คือสถานที่ที่คุณควรลองไปแวะดู มิซุมาเดะระแปลว่า "ระหว่างสายน้ำ" ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างถูกต้องเมื่อพูดถึงตำแหน่งที่ตั้งของวัด เนื่องจากวัดนั้นตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำจากธรรมชาติบริสุทธิ์สองสาย โดยมีนักบวชรูปหนึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัดนี้ตามพระราชประสงค์ขององค์จักรพรรดิโชมุ (Emperor Shomu) เมื่อกว่า 1,200 ปีมาแล้ว ในสมัยเทนเปียว (Tenpyo) (ช่วงปี ค.ศ. 729-749)
เมื่อมาเยือวัดแห่งนี้ คคุณสามารถชื่นชมไปกับความงามของวัด, รูปปั้นของเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งความเมตตา, เจดีย์สามชั้นที่มี “ไอเซนโดะ (Aizendo)” ของวัด หรือที่เรียกว่า “สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก" ซึ่งคุณจะได้พบสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้บนฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ส่วนตรงแม่น้ำอีกฝั่ง คุณจะได้พบกับสิ่งน่าสนใจเพิ่มเติม เช่น สวนมิซูมะ (Mizuma Park) ที่เต็มไปด้วยรูปปั้นต่าง ๆ และ “สะพานของคู่รัก (Lovers’ Bridge)” สีแดงสดใสซึ่งใช้ข้ามสระน้ำที่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระ
วัดมิซุมาเดะระอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ 17 นาที เมื่อคุณขึ้นรถไฟสาย Nankai Electric Railway Main Line ผ่านสถานี Kaizuka Station เพื่อไปยังสถานี Mizuma Kannon Station จากนั้นก็เดินต่อจากสถานีอีก 10 นาทีเพื่อไปยังวัด
เดินขึ้นไปยังน้ำตกของเหล่านักแสวงบุญชาวพุทธพร้อมเติมพลังใหม่ให้กับจิตวิญญาณของคุณ
มองหาที่ทำบุญด้านจิตวิญญาณในโอซาก้าอยู่รึเปล่า ถ้าอย่างนั้น อินุนากิซัง (Inunakisan) หรือ “หุบเขาสุนัขเห่า” นั้นคือจุดหมายปลายทางของคุณ วัดแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันรุ่มรวยที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวและตำนานอันน่าตื่นตาตื่นใจต่าง ๆ และถือว่าเป็นศูนย์รวมของนักบวชพุทธศาสนาลัทธิชูเก็นโด (Shugendo) ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สถานที่อันโดดเด่นในหุบเขาแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นโดยเหล่าผู้บำเพ็ญตบะเมื่อกว่า 1300 ปีมาแล้ว
นักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ด้านจิตวิญญาณขณะที่อยู่ในญี่ปุ่นนั้นสามารถมายังที่แห่งนี้เพื่อสุขใจไปกับวัด, น้ำตก และสิ่งก่อสร้างจากหินต่าง ๆ ที่ยังคงเหลือให้เห็นอยู่ วัดชิปโปริวจิ (Shipporyuji Temple) ซึ่งแปลว่า “น้ำตกแห่งสมบัติล้ำค่าทั้งเจ็ด” นั้นเป็นจุดเด่นของสถานที่แห่งนี้และเป็นสถานที่ที่เอาไว้สัมผัสถึงพลังที่แท้จริงของธรรมชาติ สถานที่แห่งนี้ยังมีรีสอร์ทน้ำพุร้อนเพื่อเอาไว้ให้คุณแช่ขณะที่ชื่นชมความงดงามของหุบเขาอันน่าตื่นตาตื่นใจ
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้รอคุณอยู่และใช้เวลาเดินทางมาจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซด้วยเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง โดยให้ขึ้นรถไฟสาย Nankai-Limited Express เพื่อไปลงที่สถานี Izumisano Station จากนั้นให้ขึ้นรถประจำทางที่มุ่งหน้าไปยังอินุนากิซังแล้วก็ให้ลงที่ป้าย Ichinodosyobashi จากนั้นให้เดินขึ้นไปอีกประมาณ 35 นาทีเพื่อไปยังวัดชิปโปริวจิ
ฝึกปฏิบัติการเจริญสติได้ที่สวนเซนของวัดนันชูจิ
สวนเซนของวัดนันชูจิ (Nanshuji Temple Zen Garden) นั้นคืออีกหนึ่งสถานที่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซที่ควรไป วัดที่มีชื่อเสียงแห่งนี้เป็นของสำนักพุทธศาสนานิกายรินไซ แต่กลับถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1557 โดยโซโต ดาอิริ (Soto Dairi) ตามคำขอของนางาโยชิ มิโยชิ (Nagayoshi Miyoshi) แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าวัดเดิมนั้นถูกไฟไหม้ไปในปี ค.ศ. 1615 ดังนั้น วัดจึงย้ายมาสร้างใหม่ ณ ที่ปัจจุบัน ในสมัยใหม่นั้น วัดนันชูจิเป็นสถานรำลึกอันมีชื่อเสียงพร้อมได้รับการยกย่องให้เป็นวัดนิกายเซนชั้นสูง
สวนเซนอันสงบของวัดนันชูจิได้รับการยกย่องให้เป็นสถานที่อันงดงามประจำชาติของญี่ปุ่น สวนดังกล่าวประกอบไปด้วยทรายสีขาวที่ผสมผสานไปกับน้ำตกแห้ง, หินขนาดเล็ก และสะพานหิน ตรงกลางของสวนนั้นมีกองหินอันโดดเด่นที่น่าทึ่งต่อการพบเห็น หลังจากที่ชมสวนแล้ว คุณยังสามารถใช้เวลาบางส่วนเพื่อไปชมวัดของศาสนาพุทธซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดทั้งด้านในและด้านนอกอย่างที่พบเห็นได้ตรงหออนุสรณ์สถานและทางเข้าของวัด
หากคุณต้องการมายังสวนเซนของวัดนันชูจิ ให้ขึ้นรถไฟสาย Nankai-Kuko Line Airport Express ที่มุ่งหน้าไปยังสถานี Nankai-Namba จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ จากนั้นให้ลงรถไฟที่สถานี Sakai Station และเดินต่ออีก 20 นาทีเพื่อไปยังวัด
สัมผัสประสบการณ์พิธีชงชาได้ที่พิพิธภัณฑ์ปรมาจารย์ชาเซ็น โนะ ริคิว (Grand Tea Master Sen-no-Rikyu Museum)
เพื่อสัมผัสถึงประสบการณ์ญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง ให้มุ่งหน้าไปยังซาไกพลาซ่า (Sakai Plaza) เพื่อเรียนรู้พิธีชงชาและชีวิตของปรมาจารย์พิธีชงชาแบบดั้งเดิมที่มีนามว่าเซ็น โนะ ริคิว (Sen no Rikyu) พิธีชงชาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นนั้นเป็นเรื่องของความเชื่อมโยงกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญเรื่องชากับแขกของตนเองขณะที่ทำการดื่มชา การเตรียมชาและห้องที่ใช้ในพิธีชงชาโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องชานั้นช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประสบการณ์โดยรวมได้เป็นอย่างยิ่ง
เซ็น โนะ ริคิว เป็นผู้ที่ทำให้พิธีชงชานั้นกลายเป็นที่รู้จัก นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณถึงจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเขาระหว่างที่ทำพิธีชงชาของคุณเอง คุณจะมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติของชามัทฉะกับของหวานญี่ปุ่นต่าง ๆ ขณะที่ผ่อนคลายอย่างสะดวกสบายอยู่ในที่นั่ง หรือจะไปร่วมประสบการณ์พิธีชงชาแบบต้นตำรับได้ที่โรงชา
หากต้องการไปยังซาไกพลาซ่าจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ ให้ขึ้นรถไฟสาย Hankai Line เพื่อไปยังสถานี Shukuin Station จากนั้นเดินจากสถานีอีกเพียงหนึ่งนาทีเพื่อไปยังพิธีชงชาของคุณ
ชมความงดงามของศาลเจ้าซากุราอิไม้โบราณที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติ
สนใจอยากชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นอยู่รึเปล่า ถ้าอย่างนั้น คุณต้องอยากไปชมศาลเจ้าซากุราอิไม้โบราณ (Sakurai Shrine) อย่างแน่นอน ศาลเจ้าไม้แห่งนี้สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่หก ซึ่งทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ล้ำค่าที่สุดของโอซาก้า ศาลเจ้าไม้โบราณแห่งนี้อยู่รอดจากทั้งสงครามการปิดล้อมโอซาก้าและสงครามโลกครั้งที่สอง นั่นจึงเป็นเหตุว่าทำไมศาลเจ้าแห่งนี้จึงได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าศาลเจ้านี้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับศาลเจ้าอื่น ๆ ในญี่ปุ่น แต่คุณก็ยังสามารถเดินเล่นรอบ ๆ ศาลเจ้าได้ โปรดสังเกตว่าไฮเด็น (Haiden หรือหอสักการะ) ของศาลเจ้าแห่งนี้นั้นจะแตกต่างจากศาลเจ้าอื่น ๆ ในประเทศ โดยจะมีซุ้มทางเดินตรงกลางที่นำไปสู่แท่นบูชาสวดมนต์ที่อยู่ตรงปลายของทางเดิน ซึ่งรูปแบบนี้จะไม่ค่อยได้พบเห็นในสถาปัตยกรรมแบบชินโต จึงทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ควรค่าต่อการมาดูด้วยตาเป็นอย่างยิ่ง
ศาลเจ้าซากุราอิตั้งอยู่กลางทางระหว่างท่าอากาศยานกับเมืองโอซาก้าโดยอาจต้องเดินทางเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย คุณสามารถเดินทางโดยรถยนต์จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเพื่อไปยังศาลเจ้าแห่งนี้ได้ภายใน 30 นาที นอกจากนี้ คุณยังสามารถขึ้นรถไฟสาย Kansaikuko Line เพื่อไปยังสถานี Mikunigaoka Station จากนั้นก็ต่อด้วยรถไฟสาย Nankai-Koya Line เพื่อไปยังสถานี Toga-Mikita Station แล้วก็เดินต่ออีก 2 กม. เพื่อไปยังศาลเจ้า
วางแผนทริปของคุณไปกับ Japan Airlines
หากคุณกำลังมุ่งหน้าไปยังญี่ปุ่นและกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอะไรดีระหว่างที่พักเครื่องอยู่ในโอซาก้า หรือจะไปเที่ยวรอบ ๆ โอซาก้าที่ไหนดี คู่มือนี้จะช่วยให้คุณวางแผนได้ ไม่ว่าคุณจะกำลังเดินทางระหว่างโตเกียวกับโอซาก้า หรือแค่กำลังแวะพักเครื่องในโอซาก้าก็ตาม คุณจะต้องอยากสำรวจเมืองน่าทึ่งแห่งนี้อย่างแน่นอน
มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์นอกกระแสต่าง ๆ ที่อยู่ใกล้กับท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเอาไว้ให้คุณได้สำรวจเยอะแยะ เพราะฉะนั้น ใช้เวลาในเมืองนี้ให้คุ้มเข้าไว้ Japan Airlines ช่วยคุณวางแผนประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในทริปไปโอซาก้าครั้งต่อไปของคุณได้ด้วย Japan Explorer Pass
ต้องหยุดพักต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถสัมผัสได้ในประเทศญี่ปุ่นขณะรอเที่ยวบินถัดไป
เริ่มต้นออกทริปตะลุยชิมที่ไม่มีวันลืมเลือนในโอซาก้าไปกับ Japan Airlines ได้แล้ววันนี้ ไม่ว่าจะเป็นสเต๊กชั้นเลิศจากฟาร์มในท้องถิ่นไปจนถึงสุดยอดอาหารทะเลสดใหม่ ออกสำรวจโอซาก้าซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นสวรรค์แห่งอาหารได้แล้ววันนี้
ต้องหยุดพักต่อเครื่องหลายชั่วโมงที่สนามบินนานาชาติคันไซใช่ไหม สวนสาธารณะยาวเซ็นนังและจุดหมายปลายทางอันน่าตื่นเต้นอื่นๆ อยู่ในบริเวณใกล้เคียง
แบ่งปัน
แบ่งปัน