AOMORI
|
อาหาร

รสชาติอาหารต้นตำรับอาโอโมริ

อาหารต้นตำหรับอาโอโมริคือหนึ่งในขุมทรัพย์หลาย ๆ อย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ในอาโอโมริ
A Taste of Aomori Cuisine

ขณะที่คุณท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ คุณจะได้ลิ้มรสของอร่อยต่าง ๆ ซึ่งบางอย่างนั้นอาจเป็นของแปลกใหม่สำหรับคุณ คุณสามารถเลือกประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีปฏิสัมพันธ์ยิ่งกว่าเดิมได้ ด้วยการเช่าตะแกรงย่างและทำอาหารของคุณเอง ไม่ว่าคุณจะไปเยือนที่ใดก็ตามในอาโอโมริ คุณจะได้พบกับประสบการณ์ด้านอาหารที่ยอดเยี่ยมเสมอ

อาหารท้องถิ่นของอาโอโมริที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

นกเกะด้ง

นกเกะด้ง

ให้ต่อมรับรสของคุณได้สัมผัสกับรสชาติมหัศจรรย์ของอาหารทะเลสด ๆ ที่พลาดไม่ได้ของอาโอโมริ ที่เสิร์ฟราดหน้าในชามข้าวหุงหอมกรุ่น นกเกะด้ง (Nokke-don) ซึ่งก็คือเมนู "ชามข้าวโรยหน้าท็อปปิงต่าง ๆ" นั้นเป็นเมนูโปรดยอดฮิตสำหรับคนในพื้นที่ และเป็นเมนูที่เหล่าผู้มาเยือนต่างต้องลอง เมนูชามข้าวนั้นมักพบเห็นได้ทั่วไปในญี่ปุ่น แต่สิ่งที่ทำให้นกเกะด้งแตกต่างออกไปนั้นก็คืออิสระในการเลือกท็อปปิงโปรดต่าง ๆ

หนึ่งในสถานที่ที่มีนกเกะด้งอร่อยที่สุดก็คือ Aomori Gyosai Center (ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่าตลาดปลาฟูรุคาวะ (Furukawa Fish Market)) ที่นี่มีตัวเลือกนับร้อยเอาไว้ให้เลือก ซึ่งรวมไปถึงอาหารทะเลท้องถิ่น ผัก และเนื้อย่างต่าง ๆ หากคุณสับสนจนไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี ให้ลองหอยเชลล์กับทูน่าของท้องถิ่นดู ซึ่งถือเป็นอาหารที่เป็นหน้าเป็นตาของอาโอโมริ ส่วน Ikamenchi (หมึกบด) หรือปลาย่างซึ่งเป็นเมนูพิเศษของศูนย์แห่งนี้ก็สามารถเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติให้กับเมนูชามข้าวของคุณได้

ซูชิฮามะ (ปลาทูน่าโอมะ)

ซูชิฮามะ (ปลาทูน่าโอมะ)

ผู้ที่ชื่นชอบซูชิกับซาชิมิรวมถึงผู้คนทั่วไปนั้นต่างทราบกันที่ว่าปลาทูน่าของญี่ปุ่นนั้นคือเมนูสุดพิเศษ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่จับได้ในเมืองท่าอันมีเสน่ห์ของอาโอโมริที่ชื่อว่าโอมะซึ่งตั้งอยู่ตรงปลายสุดของเกาะฮอนชูคือปลาทูน่าที่มีรสเด็ดที่สุด ปลาทูน่าโอมะซึ่งเป็นที่รู้จักกันว่า “เพชรสีดำแห่งช่องแคบสึงารุ” จากราคาการประมูลที่น่าตื่นตาตื่นใจเพื่อส่งต่อไปยังตลาดปลาต่าง ๆ ของโตเกียวนั้นคือเมนูเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด

คุณสามารถที่จะพบเห็นปลาทูน่าโอมะได้ตามร้านอาหารกูร์เมต์ทั่วโลกก็จริง แต่ก็คงไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่าการได้ลิ้มลองที่เมืองโอมะซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งของปลาทูน่าโดยตรง ลองมาเยือนเมืองแห่งนี้ในเดือนกันยายนและตุลาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูที่ปลาทูน่ามีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด เข้าร่วมใน “วันปลาทูน่า (Tuna Days)” ที่มีการให้ลองชิมปลาทูน่า ซึ่งเป็นงานที่คุณสามารถชมชาวประมงแล่เนื้อปลาตัวใหญ่ได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถลิ้มลองความอร่อยนี้ได้ในซูชิฮามะ (Hama Sushi) ได้อีกด้วย เพียงแค่ได้ลิ้มลองเนื้อปลาหอมหวานที่ละลายในปากเพียงคำเดียว คุณก็จะรู้ได้ทันทีว่าทำไมปลาทูน่าโอมะถึงได้กลายเป็นอาหารขึ้นชื่อของที่นี่

ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะ

ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะ

ตลาดเช้าท่าเทียบเรือทาเทฮานะ (Tatehana Wharf Morning Market) ที่เป็นตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในอาโอโมริและในภูมิภาคโทโฮคุที่เปิดเฉพาะในช่วงเช้าตรู่ของทุก ๆ วันอาทิตย์เท่านั้น ตลาดอันน่าตื่นตาตื่นใจช่วงสุดสัปดาห์ในเมืองฮาจิโนเฮะนี้ทำให้ท่าเทียบเรือประมงเงียบ ๆ ดูคึกครื้นขึ้นมาได้ ที่ซึ่งเหล่าผู้มาเยือนนับหมื่นรายต่างพากันมาหาผลไม้สด ๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอร่อย ๆ อื่น ๆ ที่ต่างพากันมากระหน่ำลดราคา

แม้ว่าจุดเด่นของตลาดนั้นคืออาหารทะเลสดและแห้งที่จับขึ้นมาจากท่าเรือ แต่ก็มีแผงจำหน่ายสินค้าอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วน ซึ่งมีทั้งผลไม้กับผักที่ปลูกในท้องถิ่น ขนมปัง เครื่องครัว จักรเย็บผ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยแผงจำหน่ายสินค้ากว่า 300 แผงและเสียงดนตรีสดที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ตลาดแห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่ลงตัวในการตะลุยรับประทานอาหารเช้ารสชาติมหัศจรรย์ในช่วงเช้าวันอาทิตย์อันสดใส ก่อนที่จะเริ่มออกทัวร์ที่คุณวางแผนไว้ในช่วงเวลาที่เหลือของวัน

ตลาดปลาฮัชโชะกุเซ็นเตอร์

ตลาดปลาฮัชโชะกุเซ็นเตอร์

ตลาดปลาฮัชโชะกุเซ็นเตอร์ (Hasshoku Center) เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในฮาจิโนเฮะและเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของอาโอโมริ ณ ที่แห่งนี้ คุณจะได้พบกับอาหารทะเลสด ผลไม้ ผัก และของฝากมากมายจากทางตอนใต้ของอาโอโมริ หนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังที่สุดของฮัชโชะกุคือ Shichirin mura ที่ซึ่งคุณสามารถเช่าตะแกรงเตาถ่านเล็ก ๆ เพื่อสนุกไปกับการย่างอาหารได้ด้วยตัวคุณเอง คุณสามารถซื้ออาหารสดได้จากแผงจำหน่ายอาหารสดมากมายของตลาดและทำอาหารด้วยตัวคุณเอง นี่คือวิธีที่ยอดเยี่ยมในการอิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลอันน่าทึ่งของฮาจิโนเฮะ ซึ่งได้รับความนิยมจากทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

สาเก

สาเก

โรงหมักสาเกฮาจิโนเฮะ

โรงหมักสาเกฮาจิโนเฮะ

โรงหมักสาเกฮาจิโนเฮะ (Hachinohe Sake Brewery) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1740 ใช้ข้าวธรรมชาติออร์แกนิกและยีสต์ที่เพาะขึ้นในจังหวัดอาโอโมริ สาเกของที่นี่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของเหล่านักท่องเที่ยวและได้รับรางวัลในต่างประเทศมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน สาเกของอาโอโมริที่ขึ้นชื่อที่สุดนั้นมีสองแบบ ได้แก่ Mutsu Otokoyama (สาเกแห้ง) และ Mutsu Hassen (ที่มีกลิ่นหอมอะโรมาแบบกินโจและรสหวานสดชื่น)

โรงหมักสาเกนารุมิ

โรงหมักสาเกนารุมิ

โรงหมักสาเกนารุมิ (Narumi Sake Brewery) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1806 เป็นโรงหมักที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองคุโรอิชิ (Kuroishi) และมีผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อคือ Kikunoi, Inamuraya Bunshiro และ Inamuraya สาเกนารุมิมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีกับรสชาติของเครื่องดื่มที่ทุกคนจะต้องหลงใหล เที่ยวชมอาคารเก็บสาเกแบบดั้งเดิมพร้อมลิ้มลองรสชาติสาเกได้แบบฟรี ๆ โรงหมักแห่งนี้โด่งดังเป็นอย่างยิ่งที่แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ยังชอบที่จะแวะมาเยือน 

โรงหมักสาเกรกกะ

โรงหมักสาเกรกกะ

โรงหมักสาเกรกกะ (Rokka Sake Brewery) ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1972 โดยเกิดจากการรวมตัวกันของโรงหมักสามแห่ง ได้แก่ โรงหมักทาคาชิมายะ (Takashimaya Brewery) โรงหมักชิราอุเมะ (Shiraume Brewery) และโรงหมักคาวามุระ (Kawamura Brewery) สาเกของที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องของการหมักด้วยกรรมวิธีแบบสึงารุ (Tsugaru) ซึ่งเป็นวิธีการทำสาเกด้วยมือแบบดั้งเดิม แบรนด์ที่โด่งดังของโรงหมักแห่งนี้ ได้แก่ Joppari, Tappi, Kurako และ Tsugaru Kaikyo

สถานที่ซื้อสาเกท้องถิ่น (ร้านจำหน่ายสุราสึจิมุระ)

สถานที่ซื้อสาเกท้องถิ่น (ร้านจำหน่ายสุราสึจิมุระ)

หากคุณสงสัยว่าจะหาซื้อสาเกกลับบ้านได้ที่ไหนแล้วล่ะก็ ให้มุ่งหน้าไปยังร้านจำหน่ายสุราสึจิมุระ (Tsujimura Liquor Store) ซึ่งใช้เวลานั่งรถประมาณ 24 นาทีจากท่าอากาศยานอาโอโมริ ณ ที่แห่งนี้ คุณสามารถลองชิมและซื้อสาเกท้องถิ่นยี่ห้อต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงสาเกที่ผลิตโดยโรงหมักสาเกนิชิดะ (Nishida Sake Brewery) ร้านแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นมนปี ค.ศ. 1878 และจำหน่ายสาเกชื่อดังแต่หายากที่มีชื่อว่า Denshu ที่คุณไม่สามารถไปเที่ยวชมและชิมสาเกดังกล่าวที่โรงหมักได้ แต่ทว่าคุณสามารถซื้อสาเกที่ว่าได้ที่ร้านสุราสึจิมุระนี้

ทุกอย่างที่ทำจากแอปเปิล

ทุกอย่างที่ทำจากแอปเปิล

สำหรับคนที่ถามว่า "แอปเปิลของฟูจินั้นปลูกกันที่ไหน" อาโอโมริคือแหล่งปลูกแอปเปิลฟูจิและเป็นแหล่งผลิตแอปเปิลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แอปเปิลฟูจิมีชื่อเสียงที่โด่งดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสหรัฐในปัจจุบัน แอปเปิลดังกล่าวเป็นการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแอปเปิลอเมริกันสองสายพันธุ์ ได้แก่ Red Delicious และ Old Virginia Ralls Jane นอกจากนี้ คุณยังสามารถชมต้นแอปเปิลฟูจิที่มีอายุมากที่สุดได้ในอาโอโมริอีกด้วย

ออกตามล่าพายแอปเปิล

ออกตามล่าพายแอปเปิล

เมื่อคุณเดินทางไปยังเมืองฮิโรซากิ ให้ขอแผนที่ “การออกตามล่าพายแอปเปิล (Apple Pie Hunt)” จากโต๊ะประชาสัมพันธ์สำหรับนักท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ยินดีที่จะมอบแผนที่นั้นให้กับคุณ แผนที่ดังกกล่าวจะแสดงพายแอปเปิลกว่า 50 ชนิดที่มีให้ลองในเมืองแห่งนี้ Taishō Roman Tea Room ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอนุสรณ์ฟูจิตะ (Fujita Memorial Garden) อันงดงามที่อยู่ใกล้กับปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) มีตัวอย่างพายแอปเปิลให้ลองชิม สถานที่แห่งนี้เป็นที่นิยมของผู้คนท้องถิ่นอย่างยิ่ง

Hirosaki Cider Brewery Kimori

Hirosaki Cider Brewery Kimori

Hirosaki Cider Brewery Kimori ตั้งอยู่ภายในสวนแอปเปิลฮิโรซากิ (Hirosaki Apple Park) ที่ใช้น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาอิวากิ (Mt. Iwaki) เพื่อรดสวนแอปเปิล ในเดือนพฤศจิกายน แอปเปิลที่สุกงอมจะถูกนำไปยังโรงหมักเพื่อเปลี่ยนให้เป็นแอปเปิลไซเดอร์

คุณสามารถมุ่งหน้าไปยังห้องลองชิมของ Hirosaki Cider Brewery Kimori เพื่อลองชิมตัวอย่างได้ ที่นี้มีที่นั่งทั้งในและนอกอาคารที่หันไปทางสวนแอปเปิลไว้ให้บริการ

Aomori Shunmi Kan และ A-FACTORY

Aomori Shunmi Kan และ A-FACTORY

ห้างสรรพสินค้าสองแห่งนี้จำหน่ายผลิตภัณฑ์แอปเปิล ผลิตภัณฑ์ไซเดอร์ และผลิตผลท้องถิ่นหลากหลายชนิด หากคุณกำลังหาที่ลองชิมหรือซื้อของฝากอยู่แล้วล่ะก็ ให้มุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าสองแห่งนี้

Tsugaru Railway “Stove Train”

Tsugaru Railway “Stove Train”

คุณเคยฝันที่จะเดินทางผ่านดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวบนรถไฟคลาสสิกหรือไม่ Tsugaru Railway’s “Stove Train” สามารถทำให้ฝันของคุณกลายเป็นจริงได้ นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 Stove Train ได้วิ่งระหว่างสถานี Tsugaru-Goshogawara Station และ Tsugaru-Nakasato Station ท่ามกลางหิมะหนา ๆ ของภูมิภาคสึงารุในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม

แต่ขบวนรถไฟนั้นกลับดูอบอุ่นเมื่อเทียบกับทิวทัศน์อันเย็นยะเยือกภายนอกด้วยเตาเหล็กหล่อโบราณที่มีพนักงานของรถไฟตักถ่านหินใหม่เติมเข้าไปอยู่เป็นช่วง ๆ

กล่องอาหารกลางวัน

กล่องอาหารกลางวัน

หากคุณต้องการทานอาหารพร้อมกับชมฉากหิมะอันงดงามด้านนอกหน้าต่าง ให้ลอง “stove bento” (กล่องอาหารกลางวัน) คุณจะได้พบกับข้าวปั้นโอนิกิริ หมึกและกุ้งคลุกเคล้าซอสท้องถิ่น และผักต่าง ๆ ที่แพ็กอยู่ในกล่องอาหารกลางวันพิเศษที่ทำจากไม้ไผ่ โปรดทราบว่าคุณต้องจองชุดอาหารกลางวันนี้ล่วงหน้า แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าต่อการลอง

บาร์บีคิวเตาถ่าน

บาร์บีคิวเตาถ่าน

นอกเหนือไปจาก stove bento แล้ว พนักงานบริการที่เป็นมิตรบนรถไฟยังได้ย่างหมึกแห้งบนเตาถ่านที่คุณสามารถลองซื้อทานได้ นอกจากนี้ยังมีขนมขบเคี้ยวอื่น ๆ เช่นเค้กข้าวและข้าวปั้นที่ย่างบนเตาถ่านเช่นกัน

อิ่มอร่อยได้ตลอดการเดินทางในอาโอโมริ

อิ่มอร่อยได้ตลอดการเดินทางในอาโอโมริ

มีหลายสิ่งหลายอย่างให้ชมและทำในอาโอโมริ รวมไปถึงประสบการณ์และอาหารให้ชิมมากมาย ตั้งแต่เมนูถ้วยข้าวสุดพิเศษ สาเกหมักรสชาติอร่อย ไปจนถึงพายแอปเปิลแบบต่าง ๆ เชิญมาลิ้มลองความอร่อยของอาโอโมริได้ด้วยตัวคุณเองเลย

ลิ้มลองรสชาติอาหารแสนอร่อยของอาโอโมริได้เมื่อคุณใช้ JapanAir Explorer Pass

สำรวจ อาโอโมริ

สำรวจกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมในอาโอโมริ

กิจกรรมที่ต้องลองในอาโอโมริในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว
กิจกรรมกลางแจ้ง

กิจกรรมที่ต้องลองในอาโอโมริในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว

จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู (Honshu) ขึ้นชื่อเป็นอย่างยิ่งในเรื่องหิมะอันขาวบริสุทธิ์ แต่สถานที่แห่งนี้ก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ทำนอกเหนือไปจากการเล่นสกีและสโนว์บอร์ดด้วย

ความงดงามทางธรรมชาติของอาโอโมริ - เทือกเขาชิราคามิซันจิที่เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก แนวหินโฮโตะเกะกะอุระ และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย
ธรรมชาติและสวนสาธารณะ

ความงดงามทางธรรมชาติของอาโอโมริ - เทือกเขาชิราคามิซันจิที่เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก แนวหินโฮโตะเกะกะอุระ และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย

อาโอโมริเป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของประวัติศาสตร์ อาหาร และวิวธรรมชาติที่หาที่เปรียบมิได้ แหล่งรวมของภูเขาอันยิ่งใหญ่และหุบเขาอันงดงามแห่งนี้คือจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

วิธีการเดินทาง