ความงดงามทางธรรมชาติของอาโอโมริ - เทือกเขาชิราคามิซันจิที่เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก แนวหินโฮโตะเกะกะอุระ และสถานที่อื่น ๆ อีกมากมาย

อาโอโมริแปลว่า “ป่าสีน้ำเงิน” ซึ่งตั้งชื่อให้เข้ากับมหาสมุทรสีน้ำเงินที่รายล้อมและป่าเขียวชอุ่มที่แต่งแต้มสีสันให้กับทิวทัศน์ให้กับภูมิภาค ไม่ว่าคุณจะมาเยือนในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง หรือฤดูหนาวก็ตาม ที่แห่งนี้ล้วนมีกิจกรรมให้ทำและวิวให้ดูนับไม่ถ้วน

สัมผัสความมหัศจรรย์ของเทือกเขาชิราคามิซันจิ - แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

ระหว่างจังหวัดอาโอโมริกับอากิตะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเป็นที่ตั้งของเทือกเขาชิราคามิซันจิ (Shirakami Sanchi) เทือกเขาที่ทอดตัวสุดลูกหูลูกตานี้ปกคลุมไปด้วยต้นเมเปิลกับต้นสน และหนึ่งในแหล่งป่าบีชบริสุทธิ์ผืนสุดท้ายของญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกแรก ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยวิวอันงดงาม น้ำตก ทะเลสาบ หุบเขา ยอดเขา และลำธารต่าง ๆ

สำรวจเทือกเขาชิราคามิซันจิด้วยเส้นทางเดินป่าที่หลากหลายที่จะพาคุณไปยังยอดเขาต่าง ๆ รอบ ๆ เทือกเขา ภูเขาฟูตาสุโมริ (Mount Futatsumori) นั้นเป็นเส้นทางง่าย ๆ ที่มีความชันพอตัวและใช้เวลาเดินขึ้นสู่ยอดเขาเพียงหนึ่งชั่วโมง ความงามของทิวทัศน์คุ้มค่าต่อการเดินฝ่าฟันความชันเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหล่านักเดินป่าจะได้เห็นภูเขาและหุบเขาต่าง ๆ ของเขตพื้นที่แหล่งมรดกโลกในแบบที่นักท่องเที่ยวทั่วไปไม่อาจสามารถหารับชมได้

หากคุณมองหากิจกรรมที่ต้องออกแรงน้อยกว่า คุณสามารถเดินไปตามเส้นทางเดินป่าอันงดงามของลำธารไดระเคียว (Dairakyo Gorge) ได้ ซึ่งใกล้ ๆ กันนั้นมีบึงทามาชิโร (Tamashiro Swamp) ที่สวยงามอยู่ใกล้ ๆ กับเส้นทางเดินป่าที่จะพาคุณไปสู่ยอดเขาโคมากาทาเกะ (Mount Komagatake) ได้

ชมผืนน้ำสีน้ำเงินของจูนิโกะ

หนึ่งในสถานที่ที่มีวิวที่สวยที่สุดของเทือกเขาชิราคามิซันจิก็คือจูนิโกะ (Juniko) ซึ่งแปลว่าทะเลสาบ 12 แห่ง ชมวิวอันน่าตื่นตาตื่นใจของทะเลสาบและสระน้ำอันงดงามที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยเส้นทางเดินป่า อาโออิเกะ (Aoike) ที่แปลว่าบึงสีฟ้าเป็นทะเลสาบสีฟ้าสุดพิเศษที่ดูมีเสน่ห์และมีน้ำใสจนคุณสามารถมองเห็นก้นบึงที่ลึกลงไป 10 เมตรได้

รอบ ๆ ทะเลสาบจูนิโกะ (Lake Juniko) มีเส้นทางเดินป่าให้คุณได้เดินเล่น ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ประกอบไปด้วยการเดินป่า การปีนเขา และการตั้งแคมป์ หากคุณแวะมาที่นี่ในช่วงฤดูหนาว ลองเดินป่าลุยหิมะเพื่อชมเหล่าต้นบีชอันสูงใหญ่และออกสำรวจทะเลสาบที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ต่าง ๆ

เดินลัดเลาะน้ำตกอันมง

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งก็คือน้ำตกอันมง (Anmon Falls) ที่ประกอบไปด้วยน้ำตกที่แตกต่างกันสามแห่ง (ที่มีชื่อว่า First, Second และ Third) น้ำตกแห่งนี้มีบรรยากาศที่ต้องมนตร์สะกดอย่างแท้จริงด้วยต้นบีชกับต้นสนที่รายล้อมน้ำตกและเนินหินสูงตระหง่านใกล้เคียง

วิธีเดินทางไปยังเทือกเขาชิราคามิซันจิ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอาโอโมริ (Aomori Airport) ให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางประมาณสองชั่วโมงผ่านเมืองฮิโรซากิ (Hirosaki) เพื่อไปยังเทือกเขาชิราคามิซันจิ นอกจากนี้ คุณยังสามารถนั่งรถไฟจากท่าอากาศยานเพื่อไปยังเมืองอาโอโมริ จากนั้นให้ขึ้นรถไฟสาย Ou Line จากสถานี Shin-Aomori เพื่อไปยังเมืองฮิโรซากิ จาก Hirosaki Station คุณจะสามารถเดินทางไปยังเทือกเขาได้ด้วยรถไฟ ทั้งนี้ จะมีรถโดยสารประจำทางที่มีชื่อว่า Konan Bus ให้บริการตามช่วงฤดูกาลตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงพฤศจิกายน ซึ่งจะสามารถพาคุณไปยังบางส่วนของอุทยานได้

ชมแนวหินโฮโตะเกะกะอุระอันน่าตื่นตาตื่นใจ

ใกล้ ๆ กับเทือกเขาชิราคามิซันจิจะมีแนวหินโฮโตะเกะกะอุระ (Hotokegaura Rock Formation) แนวหินที่ดูมหัศจรรย์เหล่านี้พาดตัวตามแนวชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรชิโมกิตะ (Shimokita Peninsula) คลื่นที่รุนแรงจากช่องแคบสึงารุ (Tsugaru Straits) ได้กัดเซาะหินจนกลายเป็นรูปทรงอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างที่คุณเห็นได้ในทุกวันนี้

ความงามทางธรรมชาติที่ดูตะปุ่มตะป่ำทางตอนเหนือของญี่ปุ่นแห่งนี้คืออนุสรณ์สถานธรรมชาติแห่งชาติ (National Natural Monument) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้คนในท้องถิ่นที่ถือว่าแนวหินเหล่านี้คือประตูวิญญาณที่มีไว้ให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้เดินทางไปมาระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า ในทุกเดือนกรกฎาคม คนท้องถิ่นจะมารวมตัวกันที่ชายหาดเพื่อสวดมนต์สักการะจิโซ โบซัตสุ (Jizo Bosatsu) ซึ่งเป็นเทพเจ้าทางพุทธศาสนาและแนวหินที่รายล้อม

วิธีที่ดีที่สุดในการชื่นชมแนวหินที่ตระการตาเหล่านี้ก็คือการล่องเรือชมวิวที่เดินทางมาจากหมู่บ้านซาอิ (Sai Village) วิวจากบนเรือเป็นอะไรที่วิเศษมาก คุณจะได้เห็นทะเลสีเขียวมรกตกับไหล่เขาอันเขียวขจีที่ช่วยเพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับทิวทัศน์ทางท้องทะเลของแนวหินสีขาวงาช้าง ซึ่งบางทัวร์นั้นยังอนุญาตให้คุณลงเรือไปชื่นชมแนวหินได้อย่างใกล้ชิดด้วย

วิธีเดินทางไปยังแนวหินโฮโตะเกะกะอุระ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอาโอโมริ ให้ขึ้นรถโดยสาร JR Bus เพื่อไปยัง Aomori Port และขึ้นเรือความเร็วสูง Polar Start เพื่อไปยังหมู่บ้านซาอิ

ดูวิวลำธารโออิราเซะอันน่าทึ่ง

ลำธารโออิราเซะ (Oirase Gorge) เป็นหนึ่งในลำธารท่ามกลางหุบเขาที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น ลำธารดังกล่าวไหลผ่านระหว่างยาเกะยามะ (Yakeyama) และเนโนคูจิ (Nenokuchi) และไหลไปตามแนวถนนที่ทอดตัวผ่านป่าทึบที่ขึ้นชื่อในเรื่องของสีสันอันงดงามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มันคือสถานที่ยอดฮิตสำหรับนักเดินป่าและนักปั่นที่ชื่นชอบการสำรวจน้ำตกและธารน้ำแข็งรวมไปถึงแนวหินอันน่าสนใจต่าง ๆ

หากคุณมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในฤดูใบไม้ร่วง คุณจะสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวอันน่าทึ่งของโลกที่อาบไปด้วยสีสันอันงดงามหยดย้อยแห่งฤดูใบไม้ร่วง หากคุณต้องการไปเก็บแอปเปิล ให้ลองไปที่สวนผลไม้ใกล้เคียงอย่างเช่น Tajima Apple Orchards ดู น้ำตกต่าง ๆ จะแข็งตัวในฤดูหนาว คุณจะได้เห็นน้ำตกที่แข็งตัวและแท่งน้ำแข็งย้อยที่ส่องประกายระยิบระยับ ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำตก Makado Iwa, Kumoi no Taki และ Shironuno องค์การท่องเที่ยว Inaichō General Towada-Oirase ให้บริการทัวร์ซึ่งจะพาคุณไปชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของน้ำตกแข็งโออิราเซะ (Oirase Ice Falls) ได้ทั้งในช่วงกลางวันหรือกลางคืน

วิธีเดินทางไปยังลำธารโออิราเซะ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอาโอโมริ ให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางไปยัง Aomori Station เมื่อมาถึง Aomori Station ให้ขึ้นรถโดยสาร JR Bus ที่เดินทางไปยังทะเลสาบโทวาดะ (Towada-ko) ลงจากรถที่ป้าย Oirase Keiryū-kan ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าที่ปลายลำธารโออิราเซะ

ให้เทือกเขาฮักโกดะกลายเป็นสนามเด็กเล่นในช่วงฤดูหนาวของคุณ

เทือกเขาฮักโกดะ (Hakkoda Mountains) ขึ้นชื่อในเรื่องของวิวธรรมชาติอันน่าตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งสี่ฤดูกาล เทือกเขาทอดตัวอยู่ในอุทยานแห่งชาติโทวะดะ - ฮาชิมันไต (Towada-Hachimantai National Park) ซึ่งคุณจะได้เห็นแม่น้ำ น้ำตก และวิวอันเปี่ยมไปด้วยมนตร์สะกดอื่น ๆ มากมาย

แม้ว่าฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่เทือกเขาฮักโกดะมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งที่สุด แต่สถานที่แห่งนี้ก็คุ้มค่าต่อการมาเยือนในทุกฤดู ลองเดินท่องป่าไปรอบ ๆ บ่อน้ำซุยเร็นนุมะ (Suirennuma Pond) ออนเซ็นสุกะยู (Sukayu Onsen) และยอดเขาบางยอดของเทือกเขา ทั้งนี้ สถานที่บางแห่งกำหนดให้ผู้ใช้บริการสวมอุปกรณ์นิรภัยและเฉพาะนักเดินป่าที่มีประสบการณ์เท่านั้น กรุณาตรวจสอบล่วงหน้าว่าเส้นทางใดเหมาะกับคุณ

หากคุณต้องการชมฉากอันน่าทึ่ง ให้มาในช่วงฤดูหนาวที่โลกจะปกคลุมไปด้วยสีขาวและต้นไม้ต่าง ๆ จะกลายเป็น “ปิศาจหิมะ” ที่ดูลึกลับ ต้นไม้ที่ยืนต้านลมแรง ๆ อันเย็นยะเยือกจะให้ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ดูแตกต่างออกไป ซึ่งทำให้ต้นไม้เหล่านั้นดูเหมือนสิ่งมีชีวิตที่โผล่ออกมาจากชั้นหิมะ ผู้มาเยือนสามารถเดินผ่านโครงสร้างแห่งช่วงฤดูหนาวเหล่านี้ หรือมุ่งหน้าไปยังรีสอร์ทสกีฮักโกดะ (Hakkoda Ski Resort) เพื่อสัมผัสกับหิมะละเอียดหนา ๆ เส้นทางอันน่าตื่นเต้น และวิวที่จะทำให้คุณต้องอ้าปากค้าง

นั่งเรือกอนโดลาที่ให้บริการตลอดทั้งปีเพื่อไปยัง Tamoyachi-dake พร้อมเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์แบบพาโนรามาและเส้นทางเดินป่าต่าง ๆ ที่นี่มีเส้นทางที่ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายสำหรับผู้ที่แสวงหาความท้าทายเช่นกัน เดินป่าไปยังภูเขาโอดาเกะ (Mount Odake) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาฮักโกดะ ที่ซึ่งเหล่านักไต่เขาจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ

วิธีเดินทางไปยังเทือกเขาฮักโกดะ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอาโอโมริ ให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางไปยัง Aomori Station หรือ Shin-Aomori Station เมื่อมาถึงสถานีใดสถานีหนึ่ง ให้ขึ้นรถโดยสาร JR Bus เพื่อไปยัง Hakkoda Ropeway Sanroku Station

พักผ่อนสายตาไปกับน้ำใส ๆ ของทะเลสาบโทวาดะ

ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) เป็นทะเลสาบที่เกิดจากปากปล่องภูเขาไฟซึ่งก่อตัวขึ้นประมาณ 200,000 ปีที่แล้วจากภูเขาไฟระเบิด เมื่อเวลาผ่านไป ทะเลสาบก็ได้กักเก็บน้ำฝนเอาไว้จนกลายเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดเป็นอันดับสามของญี่ปุ่นในขณะนี้ ด้วยผืนน้ำอันงดงามที่เปรียบเสมือนกระจกเงาสะท้อนภาพของท้องฟ้ากับภูเขาโดยรอบ ก่อให้เกิดเป็นวิวพาโนรามาที่จะทำให้ผู้มาเยือนได้สูดหายใจอากาศบริสุทธิ์ลึก ๆ พร้อมดื่มด่ำไปกับความงามของธรรมชาติ

หากคุณมาพายเรือแคนูและเดินป่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณจะได้เพลิดเพลินไปกับสีสันของใบไม้ที่เปลี่ยนไปเป็นสีแดง น้ำตาล และทอง รอบ ๆ ทะเลสาบโทวาดะจะมีโรงแรมขนาดเล็กแบบดั้งเดิมและบ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งไว้ให้บริการ แช่กายของคุณในออนเซ็นพร้อมลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยที่เริ่มต้นด้วยเนื้อปลาแซลมอนสดสีแดงและคิริทัมโปะ (Kiritanpo) ซึ่งเป็นข้าวปั้นที่เผาจี่กับส่วนล่างของเตาไฟ

วิธีเดินทางไปยังทะเลสาบโทวาดะ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานอาโอโมริ ให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางเพื่อไปยัง Aomori Station จากนั้นก็เปลี่ยนไปขึ้นรถโดยสาร JR Bus ที่มุ่งหน้าไปยังทะเลสาบโทวาดะ

สำรวจเมืองฮิโรซากิที่ตัดกับฉากหลังดอกซากุระอันงดงาม

ฮิโรซากิ (Hirosaki) คือที่ตั้งของปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) เพียงแห่งเดียวในภูมิภาคโทโฮคุที่ยังคงหลงเหลือในปัจจุบัน และด้วยต้นซากุระกว่า 2,000 ต้นที่ปลูกไว้ในสวน สถานที่แห่งนี้จึงกลายเป็นหนึ่งใน 100 สถานที่ชื่อดังของญี่ปุ่นสำหรับชมดอกซากุระ

ตามคูน้ำฝั่งตะวันตกของปราสาทฮิโรซากิจะมีแนวต้นซากุระอยู่ตรงทั้งสองฝั่งของทางเดิน ที่ทำให้ดูเหมือนเป็นอุโมงค์ทางเดินซากุระ สัมผัสกับเทศกาลดอกซากุระประจำปี (ซึ่งมักจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนไปจนถึง Golden Week) และเดินไปตามเส้นทางที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้พร้อมดื่มด่ำไปกับเสียงและบรรยากาศอันแปลกหูแปลกตา เพลิดเพลินไปกับวิวมหัศจรรย์ที่ตัดกับฉากหลังที่เป็นปราสาททางประวัติศาสตร์พร้อมกับคูน้ำ ประตู และหอคอยที่ล้อมกรอบไปด้วยกลีบซากุระสีชมพู

ในช่วงฤดูหนาว คุณจะยังสามารถสัมผัสกับโลกมหัศจรรย์สีชมพูด้วยต้นซากุระหิมะกว่า 200 ต้นที่ประดับประดาไปด้วยไฟ LED สีชมพู ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเพลิดเพลินไปกับต้นซากุระก็คือกลางคืนซึ่งต้นซากุระฤดูหนาวจะส่องแสงจนทำให้ดูเหมือนต้นซากุระจริง ๆ เดินทอดน่องสั้น ๆ ไปตามทางเดินข้าง ๆ คูน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งใต้กลีบซากุระที่เปล่งประกายแสงเรืองรองพร้อมเพลิดเพลินไปกับฉากที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์

นอกจากนี้ ฮิโรซากิยังเป็นสถานที่จัดเทศกาลโคมไฟหิมะ (Snow Lantern Festival) ซึ่งจัดขึ้นในทุก ๆ เดือนกุมภาพันธ์ ที่ซึ่งคุณจะได้เพบเห็นแสงเทียนสว่างไสวของโคมไฟนับร้อยสาดส่องไปทั่วสวน เพลิดเพลินไปกับรูปปั้นหิมะที่ประดับประดาตามสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ไถลลงไปตามสไลเดอร์หิมะ พร้อมชมดอกไม้ไฟแห่งฤดูหนาว

เดินทอดน่องไปรอบ ๆ สวนอนุสรณ์ฟูจิตะ

สวนสาธารณะฮิโรซากิ (Hirosaki Park) มีสวนอนุสรณ์ฟูจิตะ (Fujita Memorial Garden) ตั้งอยู่ภายใน ซึ่งเป็นสวนญี่ปุ่นอันงดงามที่ประกอบไปด้วยสระน้ำ ณ ใจกลางสวน น้ำตก บ้านญี่ปุ่นโบราณ และโรงน้ำชา คุณสามารถเดินทอดน่องไปตามบริเวณอันเงียบสงบแห่งนี้และพื้นที่อันกว้างใหญ่ส่วนอื่น ๆ ของสวนสาธารณะ สูดอากาศบริสุทธิ์พร้อมน้อมรับความสงบรอบตัวคุณขณะที่ดื่มด่ำไปกับความงามและวิถีชีวิตแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ

ลิ้มลองแอปเปิลอร่อย ๆ ได้ที่สวนแอปเปิลฮิโรซากิ

อาโอโมริยังขึ้นชื่อในเรื่องแอปเปิลเฉกเช่นเดียวกับรัฐวอชิงตันของสหรัฐอเมริกา เพราะฮิโรซากิยังเป็นแหล่งปลูกแอปเปิลนานาพรรณนับพันต้น ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการเก็บแอปเปิลได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ใกล้ ๆ กับเมืองฮิโรซากิยังมีสวนแอปเปิลอื่น ๆ ที่คุณสามารถไปเยือนได้ อาทิ Iwakisankankoringo Orchards และ Morinonakanokaju Orchards

วิธีเดินทางไปยังปราสาทฮิโรซากิจากอาโอโมริ:

เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานโตเกียว (Tokyo Airport) คุณสามารถเลือกที่จะขึ้นเครื่องบินเพื่อไปยังท่าอากาศยานอาโอโมริ หรือขึ้นรถไฟ Hayabusa เพื่อเดินทางไปตามทางรถไฟสาย Tohoku Shinkansen หากคุณเลือกที่จะขึ้นรถไฟ ให้ลงที่สถานี Shin-Aomori Station และเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟธรรมดาของท้องถิ่นเพื่อไปยังฮิโรซากิ

หากเดินทางมายังท่าอากาศยานอาโอโมริ ให้ขึ้นรถโดยสารประจำทางที่แล่นให้บริการระหว่างท่าอากาศยานกับ Hirosaki Station และสถานีรถโดยสารประจำทาง

สำรวจความมหัศจรรย์ของอาโอโมริได้ตลอดทั้งปี

ไม่ว่าจะเป็นแนวหินที่ยื่นออกไปในทะเลหรือยอดเขาสูงตระหง่านที่มีวิวพาโนรามาอันน่าทึ่ง อาโอโมริคือสถานที่ที่เหล่าผู้ที่ชื่นชอบสำรวจความมหัศจรรย์ของธรรมชาติไม่ควรพลาด ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ให้สำรวจมากมาย ไม่ว่าคุณจะเลือกออกไปลุยตามเส้นทางเดินป่าที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้ หรือสวมรองเท้าลุยหิมะเพื่อไปชมน้ำตกน้ำแข็งก็ตาม

เชิญมาเพลิดเพลินไปกับความงดงามทางธรรมชาติของอาโอโมริกันได้ตลอดทั้งปี