ค้นหาทุกสิ่งที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ วัฒนธรรม และการเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ของนางาซากิ
จังหวัดนางาซากิทําให้ผู้มาเยือนได้เห็นประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าเหลือเชื่อของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของคิวชู ด้วยเหตุนี้ เมืองนางาซากิจึงเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่เก่าแก่ที่สุดและสําคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศที่สําคัญในยุคที่ความรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกของญี่ปุ่นมีอยู่น้อยมาก
นอกจากนี้ นางาซากิยังประสบกับการโจมตีด้วยระเบิดปรมาณูอย่างรุนแรงสองครั้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งทําให้เมืองส่วนใหญ่ถูกทําลายลง จังหวัดแห่งนี้ได้ส่งสารสันติภาพที่เน้นย้ำให้เห็นถึงอันตรายของอาวุธนิวเคลียร์ เรื่องราวของเมืองสามารถสัมผัสได้ผ่านสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วเมือง
ซึ่งบัดนี้เมืองได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ผ่านความพยายามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มา โดยแสดงให้เห็นว่าเมืองนี้เป็นมากกว่าประวัติศาสตร์ในช่วงสงคราม เมืองนี้เต็มไปด้วยสถานที่สําคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันยาวนานของนางาซากิกับชุมชนทั่วโลก และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจซึ่งทําให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงดงามของธรรมชาติ
นางาซากิตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะหลักของญี่ปุ่น เมืองได้ประโยชน์จากสภาพอากาศกึ่งเขตร้อน ตั้งแต่อากาศไม่หนาวจัดในฤดูหนาวไปจนถึงอากาศร้อนชื้นในฤดูร้อน อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจังหวัด และสิ่งที่น่าประทับใจที่ไม่ควรพลาดในนางาซากิ
ดัชนี
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในนางาซากิ
ร้านอาหารที่ดีที่สุดในการลิ้มลองอาหารฟิวชั่นของนางาซากิ
สัมผัสเทศกาลทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของนางาซากิ
พร้อมที่จะจองการเดินทางของคุณหรือยัง นางาซากิจะมอบประสบการณ์การเดินทางที่ยอดเยี่ยมให้มากมายภายในตัวเมือง และทั่วทั้งบริเวณเนินเขารอบ ๆ สำรวจสถานที่สําคัญอันมีเสน่ห์เหล่านี้เพื่อสร้างแผนการเดินทางที่น่าจดจําของนางาซากิ
สวนสันติภาพนางาซากิเปิดขึ้นในปี 1955 เพื่ออุทิศให้กับสันติภาพของโลก แบ่งออกเป็นสวนสาธารณะอันเงียบสงบสองแห่ง สถานที่สำคัญ เช่น น้ำพุแห่งสันติภาพ และระฆังแห่งสันติภาพ ช่วยส่งสารที่กระตุ้นความคิดในการต่อต้านสงครามและหายนะที่ตามมา
รูปปั้นสันติภาพที่สูงถึง 10 เมตรเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของสวนสันติภาพนางาซากิ ซึ่งออกแบบโดยศิลปินเซโบ คิตะมุระ โดยย้ำเตือนถึงภัยของอาวุธนิวเคลียร์ พร้อม ๆ ไปกับเป็นสัญลักษณ์ของอนาคตที่เปี่ยมด้วยความหวัง ในวันครบรอบการทิ้งระเบิดปรมาณู 9 สิงหาคมของทุกปี แขกผู้มาเยือนจะมารวมตัวกันที่พิธีรำลึกสันติภาพของนางาซากิเพื่อเคารพและร่วมเป็นสักขีพยานในการกล่าวสุนทรพจน์ปฏิญญาสันติภาพของนายกเทศมนตรี
• ที่อยู่: 9 Matsuyama, Nagasaki 852-8118
• เวลาทำการ: เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
วิธีการเดินทาง: หากต้องการเดินทางไปยังสวนสันติภาพนางาซากิ ให้ขึ้นรถรางสาย 1 หรือ 3 จากสถานีนางาซากิ สวนสันติภาพจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดหมายของคุณ
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ อยู่ ไม่ไกลจากสวนสันติภาพนางาซากิ ช่วยให้แขกผู้มาเยือนได้เห็นภาพความหายนะที่เมืองเคยได้เผชิญมา นิทรรศการจะเผยให้เห็นถึงกระบวนการที่นําไปสู่การทิ้งระเบิด ประวัติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และการเดินทางสู่สันติภาพที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
พิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิมีห้องบรรยายขนาดใหญ่ ร้านค้าพิพิธภัณฑ์ และคาเฟ่ อนุสรณ์สถานประติมากรรมแห่งนี้จัดให้มีพื้นที่อันอ่อนไหวสําหรับเพื่อการไว้อาลัยและระลึกถึงผู้เสียชีวิต ที่นี่ นักท่องเที่ยวควรฝากข้อความเพื่อสันติภาพทิ้งไว้
• ที่อยู่: 7-8 Hiranomachi, Nagasaki 852-8117
• เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 8.30 น. ถึง 18.30 น
วิธีการเดินทาง: หากต้องการเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ ให้โดยสารรถรางสาย 1 หรือ 3 จากสถานีนางาซากิไปยังป้ายพิพิธภัณฑ์ระเบิดปรมาณูนางาซากิ จากนั้น เดินขึ้นเขาอีก 4 นาทีเพื่อไปยังจุดหมายของคุณ
นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ซึ่งก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นย่านไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น ในช่วงระยะเวลาการแยกตัวจากโลกภายนอกของประเทศ ซึ่งกินเวลาตั้งแต่ปี 1641 ถึง 1858 นางาซากิเปิดให้เฉพาะกับพ่อค้าจากจีน โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์เท่านั้น ในช่วงเวลานี้ ผู้ค้าชาวจีนได้เปิดโกดังสินค้าขึ้นเพื่อสร้างย่านที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนท้องถิ่นและแขกผู้มาเยือนมาจนถึงปัจจุบัน
วันนี้ คุณจะพบกับร้านอาหารจีนแสนอร่อยอยู่มากมาย หลายร้านได้เสิร์ฟอาหารนางาซากิอันขึ้นชื่อ อย่างซาระอุด้ง และจัมปง นอกจากสถาปัตยกรรมที่น่าหลงใหล อย่างประตูผู้พิทักษ์เมืองอันสูงตระหง่านแล้ว นางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ยังมีการจัดงานเทศกาลเทศกาลโคมไฟนางาซากิประจําปีที่จัดขึ้นตลอด 15 วันของเทศกาลตรุษจีน
• ที่อยู่: 10-13 Shinchimachi, Nagasaki 850-0842
วิธีการเดินทาง: หากต้องการเดินทางไปยังนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ ให้ขึ้นรถรางสาย 1 จากสถานีนางาซากิไปยังนางาซากิ ชินจิ ไชน่าทาวน์ คุณจะถูกรายล้อมไปด้วยร้านอาหารและร้านค้ามากมาย ณ ที่แห่งนี้
ภูเขาอินะซะยามะตั้งอยู่บริเวณชายขอบเมืองนางาซากิ มีความสูงถึง 333 เมตร มอบทัศนียภาพอันงดงามของทั้งทิวทัศน์แบบเมืองและชนบทแก่แขกผู้มาเยือน ด้วยกระเช้าลอยฟ้าที่สะดวกสบายจากเชิงเขาถึงยอดเขา นี่จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในการชมความงามอันน่าทึ่งของเมือง
ด้านบนมีจุดชมวิวที่ล้อมรอบด้วยกระจกให้ทัศนียภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ 360 องศา เสาวิทยุและโทรทัศน์จะส่องสว่างบนยอดเขาหลังฟ้ามืด มีเวทีกลางแจ้งซึ่งมักใช้สำหรับจัดคอนเสิร์ตและการแสดงสดต่าง ๆ รวมถึงมีคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เสิร์ฟของว่างและเครื่องดื่มท้องถิ่น ชมพระอาทิตย์ตกดินและทิวทัศน์ของเมืองในบริเวณใกล้เคียงซึ่งดูมีชีวิตชีวาด้วยแสงไฟอันสว่างจ้า
• ที่อยู่: Inasayama Park, 407-6 Fuchimachi, Nagasaki 852-8012
• เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 9.00 น. ถึง 22.00 น.
วิธีการเดินทาง: นั่งรถบัสโดยสารจากสถานีนางาซากิไปยังป้ายรถโดยสารอินาซะยามะ โดยใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินต่ออีก 20 นาทีไปยังยอดเขา หรือจะใช้ 'รถทางลาด' ก็มีให้บริการเช่นกัน โดยที่คุณสามารถซื้อตั๋วแบบไปกลับได้
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดนางาซากิเปิดให้บริการในปี 2005 และเป็นหนึ่งในตัวอย่างทางสถาปัตยกรรมที่สําคัญที่สุดของเมือง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการชมงานศิลปะท้องถิ่นและของต่างประเทศ คูมะ เค็งโงะ สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่นได้ออกแบบพิพิธภัณฑ์ตามแนวคิด 'พิพิธภัณฑ์ที่หายใจได้' การได้เดินชมอาคารอันเงียบสงบที่สร้างจากแก้วและหินแห่งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดนางาซากิได้จัดแสดงหนึ่งในคอลเลกชันผลงานศิลปะสเปนที่ดีที่สุดในเอเชียผ่านความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ปราโดของมาดริด ซึ่งรวมถึงผลงานที่มีชื่อเสียงของซัลวาดอร์ ดาลี และ ปาโบล ปิกัสโซ ขณะที่ โชเมอิ โทมัตสึ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นก็ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับญี่ปุ่นหลังสงครามผ่านผลงานอันโด่งดังของเขา
• ที่อยู่: 2-1 Dejimamachi, Nagasaki 850-0862
• เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 10.00 น. ถึง 20.00 น.
วิธีการเดินทาง: จากสถานีนางาซากิ นั่งรถรางสาย 1 ไปยังป้ายรถรางเดจิมะ จากนั้น เดินต่ออีกห้านาทีก็จะถึงพิพิธภัณฑ์ที่อยู่บริเวณข้าง ๆ สวนริมทะเลนางาซากิ
เกาะฮาชิมะตั้งอยู่ห่างจากเมืองนางาซากิ 15 กิโลเมตร เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ซ้ำใครสําหรับการผจญภัยที่ท้าทาย เกาะที่ถูกทิ้งร้างแห่งนี้ หรือที่รู้จักกันในชื่อกุงกันจิมะ ซึ่งหมายถึงเกาะเรือรบ ในอดีตเคยมีการทําเหมืองถ่านหิน ได้รับการยอมรับให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี 2015 เนื่องจากมีรูปทรงที่แปลกตา
เกาะฮาชิมะซึ่งเคยปรากฎอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง James Bond "Skyfall" เมื่อปี 2012 ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีประชากร 5,000 คนอาศัยอยู่บนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่เมื่อเหมืองถ่านหินปิดตัวลงในช่วงทศวรรษที่ 1970 ไม่นานทั้งเกาะก็ถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง เกาะแห่งนี้ปิดมานานหลายทศวรรษ และได้เปิดให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในปี 2009 โดยมีไกด์ทัวร์ให้ความรู้ถึงประวัติความเป็นมา
• ที่อยู่: Takashimamachi, Nagasaki 851-1315
วิธีการเดินทาง: เกาะฮาชิมะ (กังกันจิมะ) เดินทางไปได้ทางเรือเท่านั้น โดยมีบริษัทหลายแห่งที่ให้บริการจากท่าเรือข้ามฟากนางาซากิและท่าเรือโทกิวะ
เมื่อคุณได้ชมสถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในนางาซากิแล้ว โปรดอย่าพลาดชิมอาหารที่ดีที่สุด การรับประทานอาหารในนางาซากิเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมเพื่อสัมผัสประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นที่มีกลิ่นอายความเป็นนานาชาติ
Kagetsu ก่อตั้งขึ้นเมื่อเกือบ 400 ปีก่อน ปัจจุบัน ร้านแห่งนี้ได้รับการยกย่องโดยทั่วไปว่าเป็นร้านอาหารชั้นนําที่เสิร์ฟอาหารพิเศษอันเก่าแก่ของนางาซากิ นั่นคือ ชิปโปกุ ที่นี่ อาหารชั้นสูงได้ผสมผสานอาหารสไตล์ไคเซกิของญี่ปุ่นเข้ากับอิทธิพลจากจีนและโปรตุเกส โดยเป็นการบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์การค้าต่างประเทศของเมืองผ่านอาหารจานอร่อย
ร้านอาหารตั้งอยู่ภายในอาคารแบบดั้งเดิมที่สวยงามและมีกลิ่นอายของอดีต แขกจะนั่งอยู่ในโถงไม้เก่าแก่อันเงียบสงบและหันหน้าเข้าหาสวนที่งดงาม จากนั้นก็ได้เวลารับประทานอาหารเมนูต่าง ๆ สิบกว่ารายการที่นําเสนอได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ด้านในเป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการขนาดเล็กที่มีการจัดแสดงวัตถุโบราณที่รวบรวมไว้ตั้งแต่การเปิดร้าน Kagetsu เมื่อปี 1642 อย่างภาคภูมิใจ
• ที่อยู่: 2-1 Hanazuki, Maruyamamachi, Nagasaki 850-0902
• เวลาทําการ: วันพุธถึงวันจันทร์ เวลา 12.00 น. ถึง 15.00 น. และ 18.00 น. ถึง 22.00 น.
วิธีการเดินทาง: โดยสารรถรางสาย 1 จากสถานีนางาซากิ คุณสามารถไปยัง Kagetsu ได้โดยการเดินทางไปยังป้ายสถานีชิมบาชิ และเดินลงไปทางทิศใต้เป็นเวลาสี่นาที
จัมปงเป็นอีกเมนูอาหารหนึ่งของนางาซากิที่ตามรอยเรื่องราวการอพยพของชาวเมือง ถ้าอย่างนั้นร้านไหนควรที่จะลองทานที่สุดล่ะ แน่นอนว่าต้องเป็นสถานที่ที่คิดค้นเมนุขึ้นมา อาหารเมนูนี้เสิร์ฟครั้งแรกใน Shikairou เมื่อปี 1899 โดยมีรากฐานมาจากอาหารจีนสไตล์ฝูเจี้ยน จัมปงทําจากหมูทอด อาหารทะเล และผัก พร้อมกับบะหมี่ราเมน
ในช่วงทศวรรษที่ 1800 ผู้อพยพจํานวนมากที่อยู่ในนางาซากิมาจากมณฑลฝูเจี้ยน เชฟของ Shikairou มองเห็นโอกาสในการปรุงอาหารจานอร่อยในราคาย่อมเยาเพื่อดึงดูดผู้คนท้องถิ่น ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Shikairou ตั้งอยู่ตรงข้ามโบสถ์โออุระที่มีชื่อเสียง ไม่ควรพลาดที่จะไปเยือน
• ที่อยู่: Shikairou, 4-5 Matsugaemachi, Nagasaki 850-0921
• เวลาทําการ: วันพุธถึงวันจันทร์ เวลา 11.30 น. ถึง 15.00 น. และ 17.00 น. ถึง 20.00 น.
วิธีการเดินทาง: หากต้องการเดินทางไปร้านอาหาร ให้ขึ้นรถรางสาย 1 ไปยังสถานีเดจิมะ จากนั้นก็ใช้เวลาเดิน 12 นาทีผ่านสวนริมทะเลนางาซากิเพื่อไปยังจุดหมายของคุณ
หากคุณกําลังอยากจะลิ้มลองอาหารนางาซากิสมัยใหม่ ควรพิจารณากาแฟและอาหารอิตาเลียนที่ Attic เป็นอันดับแรก ระเบียงเปิดโล่งที่ผ่อนคลายซึ่งมองเห็นท่าเรือนางาซากิ เหมาะสําหรับการเพลิดเพลินกับพิซซ่าและพาสต้า เห็นเรือแล่นเข้าและออกจากท่าเรือที่งดงามดั่งภาพวาด
อย่างไรก็ดี ไม่ควรพลาดกาแฟและของหวานของที่นี่ Attic ซึ่งชงกาแฟโดยใช้เมล็ดจาก Dejima Coffee Roastery ที่อยู่ใกล้เคียง เสิร์ฟทั้งแบบเอสเพรสโซและกาแฟดริป นอกจากนี้ ยังมีเค้กให้เลือกมากมายตบท้ายเป็นของหวานเพื่อให้การแวะมาเยือนของคุณสมบูรณ์แบบ
• ที่อยู่: 1F Nagasaki Dejima Wharf, 1-1 Dejimamachi, Nagasaki 850-0862
• เวลาทำการ: ทุกวัน เวลา 11.00 น. ถึง 22.00 น.
วิธีการเดินทาง: สามารถเดินทางไป Attic ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ศิลปะจังหวัดนางาซากิได้อย่างง่าย ๆ หลังจากเดินจากป้ายรถรางเดจิมะไปตามเส้นทางรถรางสาย 1 ไม่ไกล
สําหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนนางาซากิ ลองจัดตารางเวลาของคุณให้ตรงกับเทศกาลประจําปีของเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสองเทศกาล งานเทศกาลแสนพิเศษเหล่านี้เต็มไปด้วยสีสัน ดนตรี การเต้นรํา และการเฉลิมฉลอง ช่วยให้นักท่องเที่ยวมีมุมมองที่มีชีวิตชีวาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมือง และทำให้พวกเขาได้พบกับกิจกรรมหายากที่ยกระดับการผจญภัยของตน
เทศกาลนางาซากิคุนจิซึ่งจัดขึ้นในทุก ๆ ปีตั้งแต่วันที่ 7-9 ตุลาคม เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง ถือกําเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 16 เทศกาลที่น่าตื่นเต้นนี้เป็นการเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง โดยเป็นการผสมผสานแง่มุมทางวัฒนธรรมจากจีนและเนเธอร์แลนด์เข้าด้วยกัน ซึ่งเน้นย้ำว่าวัฒนธรรมต่างประเทศส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการพัฒนาเมืองตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง
จัดโดยศาลเจ้าซุวะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโตหลักที่ตั้งอยู่บนเนินของภูเขาทามะโซโนะ โดยกลุ่มคนที่มีชีวิตชีวาซึ่งเป็นตัวแทนของย่านต่าง ๆ ในเมือง ผ่านการเต้นรำและการแสดงที่มีความหมาย อย่างไรก็ดี แต่ละย่านของเมืองจะมีส่วนร่วมได้ครั้งเดียวในทุก ๆ เจ็ดปีเท่านั้น ดังนั้น ในแต่ละปีที่มีการจัดงานเทศกาลนี้ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับการแสดงใหม่ ๆ ซึ่งช่วยส่งเสริมชุมชนนางาซากิในด้านต่าง ๆ
การได้บัตรเข้าชมในพื้นที่การแสดงหลักในฐานะชาวต่างชาติถือเป็นเรื่องยากมาก อย่างไรก็ตาม มีจุดต่าง ๆ มากมายทั่วเมือง อย่างเช่น สถานีนางาซากิ ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถรับชมได้ฟรี เทศกาลนางาซากิคุนจิเป็นงานที่ไม่ควรพลาดสําหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับกิจกรรมพื้นบ้านที่สำคัญของเมือง มีตั้งแต่การเต้นรำแบบดั้งเดิมไปจนถึงการแสดงมังกรจีน
เทศกาลโคมไฟนางาซากิเป็นเทศกาลโคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนด้วยตะเกียงและแสงไฟกว่า 15,000 ดวงที่ประดับประดาอยู่ในตัวเมือง เทศกาลนี้จัดขึ้นตลอด 15 วันในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ การแสดงสดและการแสดงแสงสีมากมายทําให้สถานที่แต่ละแห่งดูมีชีวิตชีวา
เทศกาลนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นงานกิจกรรมอย่างเป็นทางการในปี 1994 นับตั้งแต่นั้นมา ย่านนี้ได้ขยายออกไปนอกย่านไชน่าทาวน์ยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ อย่างเช่น สวนจูโอและสวนมินาโตะ นอกจากโคมมากมายแล้ว เทศกาลนี้ยังประกอบด้วยการแสดงดอกไม้ไฟ การแสดงละครเวที การเต้นรํามังกร และการประกวดความงามมากมาย
นอกจากนั้น เทศกาลนี้ยังมีอาหารจีนอร่อย ๆ ให้เลือกมากมาย จากแผงขายอาหารรสเลิศ และแผงขายของที่ระลึกที่สรรเสริญให้กับประชากรผู้อพยพของเมือง หากคุณต้องการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางจันทรคติอันน่าประทับใจนี้ ให้โดยสารรถรางไปยังป้ายชินจิ ไชน่าทาวน์ เพื่อสัมผัสกับกิจกรรมทั้งหมดนี้ได้อย่างรวดเร็ว
การวางแผนการเดินทางของคุณจากโตเกียวไปนางาซากิเป็นเรื่องง่าย ๆ คุณสามารถโดยสารเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวไปยังท่าอากาศยานนางาซากิได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 55 นาที หากต้องการเดินทางจากท่าอากาศยานไปที่เมือง คุณสามารถนั่งรถบัสโดยสารของท่าอากาศยานนางาซากิ ไปยังสถานีนางาซากิได้ใน 55 นาที
สถานีซุวะเป็นสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้กับท่าอากาศยานมากที่สุด หากคุณต้องการขึ้นรถไฟไปยังจุดหมายอื่นในจังหวัดนางาซากิ อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องนั่งรถแท็กซี่เป็นเวลา 15 นาทีเพื่อไปที่นั่น โปรดคำนึงถึงจุดนี้ด้วยเมื่อวางแผนการเดินทางของคุณหลังจากเครื่องลงจอด
หากคุณอยากดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และอาหารอันน่าตื่นตาตื่นใจของญี่ปุ่น นางาซากิมีครบทุกอย่างที่คุณมองหา ผู้ที่มาเยือนนางาซากิสามารถพบกับการผจญภัยสุดพิเศษมากมายได้ผ่านการรวบรวมประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครไว้ที่นี่
มีตั้งแต่อนุสาวรีย์ที่น่าประทับใจไปจนถึงเทศกาลหลากสีสัน แกลเลอรี่ และร้านอาหารสุดหรู มีจุดหมายปลายทางมากมายให้ใส่เอาไว้ในแผนเดินทางมาเยือนนางาซากิของคุณ หากคุณพร้อมที่จะออกผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจ วางแผนการเดินทางของคุณด้วย JAL Japan Explorer Pass เพื่อรับประโยชน์จากค่าโดยสารราคาพิเศษไปยังสถานที่ภายในประเทศมากกว่า 30 แห่งทั่วทั้งเครือข่ายของ JAL
ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดใหม่ เนื้อวากิว เมนูบะหมี่อันโอชะ ไปจนถึงขนมหวานโบราณต่าง ๆ เกาะฮิราโดะทางตอนทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดนางาซากินั้นมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารท้องถิ่นเลิศรสมากมาย
มุ่งหน้าไปยังฮิราโดะเพื่อสำรวจดินแดนที่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อน สำรวจการมาบรรจบกันทางด้านวัฒนธรรม ณ ดินแดนแห่งนี้ รวมไปถึงเส้นทางเดินเท้าระดับโลก การขี่ม้าริมชายหาด และการดื่มด่ำกับบรรยากาศของชายฝั่งยามพระอาทิตย์ตกดิน
ออกสำรวจเมืองฮิราโดะในนางาซากิ ซึ่งคุณจะได้พบที่พักซึ่งเคยเป็นของซามูไรมาก่อน พิพิธภัณฑ์อันเป็นแหล่งรวมของสมบัติโบราณ และปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา
แบ่งปัน
แบ่งปัน