NAGASAKI
|
ศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์

ฮิราโดะ: สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปและธรรมชาติอันยอดเยี่ยม

มุ่งหน้าไปยังฮิราโดะเพื่อสำรวจดินแดนที่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อน สำรวจการมาบรรจบกันทางด้านวัฒนธรรม ณ ดินแดนแห่งนี้ รวมไปถึงเส้นทางเดินเท้าระดับโลก การขี่ม้าริมชายหาด และการดื่มด่ำกับบรรยากาศของชายฝั่งยามพระอาทิตย์ตกดิน
ฮิราโดะ: สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปและธรรมชาติอันยอดเยี่ยม

ด้วยส่วนที่หลงเหลืออยู่ของประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งที่กระจายตัวอยู่ทั่วดินแดนชนบทอันน่าตื่นตาตื่นใจแห่งนี้ เกาะฮิราโดะเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือนสำหรับผู้ซึ่งหลงใหลในวิวธรรมชาติอันมีชีวิตชีวาและเรื่องเล่าปรัมปราที่กล่าวขานกันมาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปี และด้วยการเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เงียบสงบที่สุดของญี่ปุ่นในการเดินเขา การขี่ม้า และการชมตะวันตกดินตรงชายฝั่ง คุณจะไม่เสียใจเลยที่เลือกสถานที่ห่างไกลแห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนบนเกาะครั้งต่อไปของคุณ

ฮิราโดะคือเมืองท่าญี่ปุ่นแห่งแรกที่เปิดทำการค้ากับพ่อค้าชาวโปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษในปี 1550 ทำให้ดินแดนแห่งนี้ในทุกวันนี้ประกอบไปด้วยโบสถ์คริสเตียนมากมาย หาดทรายสีขาว และปราสาทเก่าแก่ ในฐานะที่เป็นศูนย์รวมการค้าที่สำคัญที่สุดของประเทศซึ่งเริ่มต้นทำการเชื่อมโยงญี่ปุ่นกับโลกตะวันตกเข้าด้วยกัน บริษัทดัตช์อีสต์อินเดียอันเก่าแก่ยังได้มีฐานดำเนินการพาณิชย์ขนาดใหญ่ในฮิราโดะด้วย

ฮิราโดะเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดของจังหวัดนางาซากิ ที่ตั้งอยู่ในแถบหมู่เกาะกึ่งเขตร้อนทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ด้วยการที่เกาะฮิราโดะมีสะพานฮิราโดะอันน่าทึ่งที่ยาวถึง 600 เมตรเพื่อเชื่อมต่อศูนย์รวมที่มีขนาดใหญ่กว่ามากอย่างเกาะคิวชูนั้น นักท่องเที่ยวนับพันจึงสามารถเดินทางไปเยือนฮิราโดะได้จากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมใกล้เคียงอย่างฟุกุโอกะ ซาเซโบะ และนางาซากิ

สำรวจเมืองที่มีโบสถ์คริสเตียนกับวัดญี่ปุ่นอยู่ร่วมกัน

สำรวจเมืองที่มีโบสถ์คริสเตียนกับวัดญี่ปุ่นอยู่ร่วมกัน

ฮิราโดะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมยุโรปมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เมื่อพ่อค้าชาวโปรตุเกสได้เริ่มต้นเส้นทางการค้ากับเกาะทาเนกาชิมาในปี 1543 ไม่นานหลังจากนั้น ชาติที่เหลือก็ได้เดินทางมาสำรวจส่วนที่เหลือต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ซึ่งรวมไปถึงมิชชันนารีคณะเยซูอิตอย่างฟรานซิส แซฟเวียร์ ซึ่งไม่นานก็ได้ก่อตั้งชุมชนคริสเตียนในฮิราโดะและยามากูจิ 

แม้ว่าจะมีการห้ามไม่ให้นับถือศาสนาคริสต์ทั่วญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ (ปี 1603–1867) แต่ผู้คนก็ยังพากันนับถือศาสนาใหม่นี้อย่างลับ ๆ เป็นเวลากว่า 200 ปี อันที่จริงแล้ว หมู่บ้านต่าง ๆ ทั่วเกาะฮิราโดะนั้นเปรียบเสมือนสถานที่หลบภัยของศาสนาคริสต์ หลังจากที่อิสรภาพด้านการนับถือศาสนาในญี่ปุ่นนั้นกลับมามีได้อีกครั้งในปี 1873 หลังจากที่เข้าสู่การฟื้นฟูยุคเมจิ โบสถ์ขนาดใหญ่ต่าง ๆ ก็ได้ผุดขึ้นมาให้เห็นในมิราโดะในไม่ช้า ซึ่งโบสถ์เหล่านี้รวมไปถึงโบสถ์อนุสรณ์เซนต์ ฟรานซิส แซฟเวียร์อันสง่างาม โบสถ์ฮิโมซาชิ และโบสถ์ยามาดะบนเกาะอิคิสึกิใกล้เคียง อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทำให้ประวัติศาสตร์ของที่นี่มีความพิเศษก็คือการที่โบสถ์เหล่านี้ปรากฏอยู่ให้เห็นคู่กับบรรดาวัดทางพุทธศาสนาในฮิราโดะอยู่ได้ 

สถานที่ที่ดีที่สุดในการชมการมาบรรจบกันทางด้านวัฒนธรรมนี้ก็คือตามถนนหินเก่าแก่ที่ทอดตัวอยู่ด้านหลังวัดสึอิอึนจิ และวัดโคเมียวจิ ห่างออกไป จะเป็นโบสถ์อนุสรณ์เซนต์ ฟรานซิส แซฟเวียร์ที่ตั้งเด่นเป็นตระหง่านอันทำให้เห็นภาพของประวัติศาสตร์อันซับซ้อนของที่นี่ 

จากนั้นก็มีปราสาทฮิราโดะที่สามารถมองเห็นวิวของอ่าวฮิราโดะที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลเท่าไร ซึ่งปราสาทแห่งนี้มีอาณาบริเวณอันเงียบสงบและสามารถชมวิวชายฝั่งอันน่าทึ่งได้

หากต้องการไปชมวิวของวัดกับโบสถ์ที่ว่านี้ ให้คุณขึ้นรถโดยสารประจำทางไปตามถนนไคกันโดริ และลงจากรถที่ป้ายมิยาโนะโชะ จากนั้นให้เดินไปอีกประมาณ 200 เมตรไปตามถนนเส้นรองเพื่อไปยังจุดชมวิวนี้ หากต้องการไปยังปราสาทฮิราโดะ ให้นั่งรถโดยสารประจำทางไปยังท่ารถฮิราโดะ แล้วให้เดินต่อไปรอบ ๆ อ่าว

เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การค้าระหว่างประเทศของฮิราโดะ

เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การค้าระหว่างประเทศของฮิราโดะ

หอการค้าของชาวดัตช์คือ สำนักงานใหญ่ของบริษัทดัตช์อีสต์อินเดียในญี่ปุ่นที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1609 ทุกวันนี้ คุณจะได้พบกับโกดังขนาดใหญ่ที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในสถานที่เดียวกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการพบกันครั้งแรกระหว่างญี่ปุ่นกับตะวันตก

ภายในของโกดัง ผู้มาเยือนจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์อันน่าดึงดูดใจที่เล่าขานถึงความสัมพันธ์ทางการค้านี้ผ่านภาพเขียน ชุดเกราะ และสิ่งของตกแต่งอื่น ๆ คุณจะสัมผัสได้ถึงอิทธิพลของชาวดัตช์ในบริเวณโดยรอบ อาทิ สะพานซาอิวะอิที่สร้างขึ้นในปี 1702 ซึ่งเน้นให้เห็นถึงเทคนิคการก่อสร้างแบบยุโรปที่ได้ปรากฏให้เห็นในญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มัตสึระยังเผยให้เห็นวัฒนธรรมการค้าที่มีมาอย่างยาวนานของฮิราโดะอีกด้วย ตระกูลมัตสึระได้เคยปกครองฮิราโดะจากสถานที่บนเนินเขาอันมีเสน่ห์แห่งนี้ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 จนถึงสมัยที่มีการยกเลิกระบบศักดินาของญี่ปุ่นไปในปี 1871 ด้วยการที่ตระกูลนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศเป็นอย่างมาก คุณจึงจะได้เห็นมรดกล้ำค่าต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ซึ่งรวมไปถึงอาวุธของซามูไร แผนที่ และแผนภาพของเรือ 

ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลมัตสึระยังเป็นตระกูลของญี่ปุ่นแรก ๆ ที่ได้ลิ้มลองรสชาติของสินค้าหรูหราในสมัยนั้นอย่างน้ำตาลด้วย ที่โรงน้ำชาคะนันเตอิของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มัตสึระ คุณสามารถลิ้มลองรสชาติของชาสด ๆ และขนมหวานแบบญี่ปุ่นสองอย่าง ซึ่งเป็นขนมชนิดเดียวกันกับที่ตระกูลมัตสึระเคยสั่งซื้อไว้เมื่อ 200 ปีก่อน

ไม่ว่าคุณจะต้องการไปเยือนหอการค้าของชาวดัตช์หรือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มัตสึระก็ตาม คุณจะสามารถไปเยือนสถานที่สำคัญทั้งสองแห่งนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยการเดินเป็นระยะทางสั้น ๆ มาจากท่ารถฮิราโดะ

ชมฉากพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงของเกาะอิคิสึกิ
ชมฉากพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงของเกาะอิคิสึกิ

ชมฉากพระอาทิตย์ตกดินที่มีชื่อเสียงของเกาะอิคิสึกิ

เพื่อให้ได้ทริปแบบวันเดียวอันสมบูรณ์แบบของฮิราโดะ ให้ข้ามสะพานอิคิสึกิแล้วท่องไปในภูมิประเทศอันน่าตื่นเต้นของเกาะอิคิสึกิ แม้ว่าจะมีมากมายหลายสิ่งให้สำรวจ แต่พื้นที่อันห่างไกลแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของอุตสาหกรรมการประมงที่มีมาอย่างช้านาน ฉากพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ และ ‘คริสเตียนที่ซ่อนเร้นอยู่’

คุณยังมาไม่ถึงเกาะแห่งนี้หากคุณยังไม่ได้ไปพิพิธภัณฑ์ของเกาะอิคิสึกิ ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวโดยละเอียดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการล่าวาฬของภูมิภาคแห่งนี้ที่เริ่มต้นกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ นอกจากนี้ ยังมีงานจัดแสดงแบบถาวรที่อุทิศให้กับเหล่าคริสเตียนผู้ซึ่งเดินหน้านับถือศาสนาของตนเองแบบลับ ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยโบสถ์ไม้ขนาดเล็ก หน้าต่างกระจกสี และเครื่องประดับต่าง ๆ

หลังจากที่ได้เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์อันมีเสน่ห์กับร้านอาหารทั่วเกาะอิคิสึกิแล้ว อย่าลืมอยู่ต่ออีกหน่อยเพื่อชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินอันยากจะลืมเลือน ด้วยจุดชมวิวจากสะพานอิคิสึกิซึ่งเป็นสะพานแบบโครงที่ยาวที่สุดในโลกนั้น คุณจะได้ชมวิวมุมกว้างของชายฝั่งที่ทำให้ทะเลจีนตะวันออกไม่เคยดูดีแบบนี้มาก่อน

แม้ว่าจะมีระบบขนส่งมวลชนไว้ให้บริการบนเกาะอิคิสึกิก็ตาม แต่วิธีการที่ดีที่สุดในการชมสถานที่อันงดงามนี้ก็คือการเช่ารถขับ นอกจากนี้ คุณยังสามารถเช่าจักรยานไฟฟ้าจากสำนักงานบริการนักท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ด้วย

ผจญภัยไปกับเส้นทางเดินเท้าระดับโลกของฮิราโดะ

ผจญภัยไปกับ เส้นทางเดินเท้าระดับโลกของฮิราโดะ

ฮิราโดะนั้นมีความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์อย่างไม่น่าสงสัย แต่ก็ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ มากมายให้คุณได้เพลิดเพลินขณะที่สำรวจถนนอันเป็นเอกลักษณ์ พิพิธภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างสำคัญทางศาสนาต่าง ๆ อยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในการผจญภัยที่ท้าทยที่สุดก็คือเส้นทางเดินเท้าคิวชูของฮิราโดะ ระยะทาง 13 กิโลเมตร

เส้นทางเดินเท้าคิวชูได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นทางเดินเท้าบนเกาะเชจู ระยะทาง 400 กิโลเมตรของเกาหลีใต้ โดยเป็นระบบเส้นทางเดินเท้าอันน่าทึ่งที่ทอดตัวยาวอยู่ไปทั่วแถบชนบทของญี่ปุ่น คำว่า ‘เส้นทางเดินเท้า’ กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางถึงที่ปลายตามระดับความเร็วของตนเอง แนวคิดนี้คือการปล่อยให้ประสาทสัมผัสของคุณได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของภูเขาและมหาสมุทรอันงดงามที่อยู่ต่อหน้า

เส้นทางฮิราโดะ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่งดงามที่สุดของเส้นทางเดินเท้าคิวชูนั้นเริ่มต้นจากใจกลางเมืองผ่านสถานที่ที่น่าตื่นเต้นต่าง ๆ อย่างวัดไซเคียวจิ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของเส้นทางคาวาชิ คุณจะสามารถมองเห็นวิวโดยรอบอันน่าทึ่งของหมู่เกาะแห่งนี้ได้ทั้งหมดจากจุดยอดนี้ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง 

ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวยังจะได้รับประสบการณ์ริมชายหาดอันมหัศจรรย์อีกด้วยในฮิราโดะ ด้วยหนึ่งในชายหาดที่โดดเด่นที่สุดซึ่งก็คือชายหาดเซ็นริกะฮามะ และซีวิวแรนช์ เมื่อขับรถมาจากใจกลางเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักกายเพื่อเติมพลังด้วยมื้ออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ก่อนที่จะสนุกไปกับการขี่ม้าตามแนวชายฝั่งหาดทราย

สำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลายยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณไปที่ร้านฮิราโดะ คายัค ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อเช่าเรือแคนูหรือซื้อทัวร์พายเรือที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยนำทางก็ได้

วิธีการเดินทางไปยังฮิราโดะ 

หากคุณกำลังมองหาหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดใกล้ ๆ กับฟุกุโอกะหรือนางาซากิอยู่แล้วล่ะก็ เกาะฮิราโดะคือจุดหมายปลายทางที่คุณสามารถเดินทางไปเยือนได้อย่างง่ายดาย โดยจะกลายเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันสิ้นสุด

จากสนามบินนางาซากิ

เมื่อบินมาจากโตเกียว คุณจะใช้เวลาเดินทางมายังสนามบินนางาซากิประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ส่วนการเดินทางมาจากโอซาก้านั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที เมื่อคุณมาถึงสนามบิน ให้นั่งรถโดยสารด่วนพิเศษไปยังท่ารถซาเซโบะ จากนั้นให้ขึ้นรถโดยสารไซฮิบัส เพื่อไปยังท่ารถฮิราโดะซังบาชิ

หากคุณชอบเดินทางโดยรถไฟ ให้ขึ้นรถโดยสารของสนามบินไปยังสถานีโอมุระ จากนั้นให้ขึ้นรถไฟสายซีไซด์ไลเนอร์ เพื่อไปยังสถานีซาเซโบะ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเป็นรถไฟสายมัตสึอุระ เพื่อไปยังสถานีทาบิระ-ฮิราโดะคูชิ สุดท้าย ให้นั่งรถโดยสารประจำทางเพื่อไปยังใจกลางเมือง

จากสนามบินฟุกุโอกะ 

เที่ยวบินที่เดินทางมาจากสนามบินฟุกุโอกะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที ในขณะที่เที่ยวบินจากโอซาก้าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ให้นั่งรถโดยสารไม่ประจำทางจากสนามบินฟุกุโอกะเพื่อไปยังท่ารถซาเซโบะ จากนั้นนักท่องเที่ยวต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถโดยสารไซฮิบัส เพื่อไปยังท่ารถฮิราโดะซังบาชิ

ส่วนการเดินทางด้วยรถไฟไปยังฮิราโดะนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย เมื่อมาถึงสนามบิน ให้นั่งรถไฟใต้ดินสายเมืองฟุกุโอกะ เพื่อไปยังสถานีฮาคาตะ จากนั้นให้นั่งรถไฟสายมิโดริหรือเฮาส์เทนบอช เพื่อไปยังสถานีซาเซโบะ หลังจากนั้น ให้เปลี่ยนไปนั่งรถไฟสายมัตสึอุระ เพื่อไปยังสถานีทาบิระ-ฮิราโดะคูชิ ก่อนที่จะนั่งรถโดยสารประจำทางในพื้นที่ต่อเพื่อเดินทางไปยังตัวเมือง

สัมผัสสิ่งที่ดีที่สุดในฮิราโดะได้ด้วยเจแปนแอร์ไลน์

นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบวิวงดงามและประวัติศาสตร์โบราณนั้นจะรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านเมื่อเดินทางมาเยือนฮิราโดะอันแสนสงบแห่งนี้ คุณสามารถวางแผนการเดินทางได้ด้วยเครือข่ายภายในประเทศที่ครบวงจรของเจแปนแอร์ไลน์ ให้คุณได้สัมผัสสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นในราคาประหยัดด้วยบัตรเจแปนเอกซ์พลอเรอร์พาส

สำรวจฮิราโดะ

สำรวจกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมในฮิราโดะ

มาดูว่านางาซากิผสมผสานวัฒนธรรม อาหาร และเทศกาลต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างไร
ศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์

มาดูว่านางาซากิผสมผสานวัฒนธรรม อาหาร และเทศกาลต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างไร

เรียนรู้เกี่ยวกับสารที่สื่อถึงความสงบสุขของนางาซากิ ดูว่าอิทธิพลจากต่างประเทศได้หล่อหลอมวัฒนธรรมและอาหารของเมืองมานานหลายศตวรรษได้อย่างไร วางแผนการไปเยือนของคุณกับ JAL วันนี้

รสชาติที่ต้องลองในฮิราโดะ: ลิ้มลองอาหารจานโปรดตำรับใหม่ของคุณ
อาหาร

รสชาติที่ต้องลองในฮิราโดะ: ลิ้มลองอาหารจานโปรดตำรับใหม่ของคุณ

ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดใหม่ เนื้อวากิว เมนูบะหมี่อันโอชะ ไปจนถึงขนมหวานโบราณต่าง ๆ เกาะฮิราโดะทางตอนทิศตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดนางาซากินั้นมีชื่อเสียงในเรื่องอาหารท้องถิ่นเลิศรสมากมาย

ฮิราโดะ: สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปและธรรมชาติอันยอดเยี่ยม
ศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์

ฮิราโดะ: สัมผัสวัฒนธรรมที่แตกต่างออกไปและธรรมชาติอันยอดเยี่ยม

มุ่งหน้าไปยังฮิราโดะเพื่อสำรวจดินแดนที่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรปเมื่อหลายร้อยปีก่อน สำรวจการมาบรรจบกันทางด้านวัฒนธรรม ณ ดินแดนแห่งนี้ รวมไปถึงเส้นทางเดินเท้าระดับโลก การขี่ม้าริมชายหาด และการดื่มด่ำกับบรรยากาศของชายฝั่งยามพระอาทิตย์ตกดิน

วิธีการเดินทาง