นางาโนะ
|
ธรรมชาติและสวนสาธารณะ

สัมผัสธรรมชาติและอุทยานต่าง ๆ ในนากาโน่

เชิญออกไปสำรวจจังหวัดนากาโน่อันเงียบสงบที่เปี่ยมไปด้วยเส้นทางเดินป่าอันงดงามที่พาดผ่านอยู่ทั่วเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น, ดอกซากุระ และความงดงามแห่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ปรากฏอยู่ในทุกแห่งกันได้แล้ว
Discover Nature and Parks in Nagano

จังหวัดนากาโน่ที่มีชื่อเล่นว่า ‘หลังคาของญี่ปุ่น’ นั้นตั้งอยู่ตรงกลางของประเททศแห่งนี้ ภูมิภาคนี้ที่ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นที่สูงเสียดฟ้านั้นขึ้นชื่อในเรื่องของฤดูกาลการเล่นสกีอันมหัศจรรย์ ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ. 1998 อย่างไรก็ตาม ช่วงเดือนอากาศอุ่น ๆ ของนากาโน่นั้นก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ด้วยเส้นทางเดินป่าและภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยผืนป่าที่มีดีกรีความงดงามระดับโลก ที่แต่งแต้มให้ดูมีชีวิตชีวาด้วยโคโย (Koyo) หรือสีสันที่สดใสแห่งช่วงฤดูใบไม้ร่วง

นากาโน่เป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีทิวทัศน์อันงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ที่ซึ่งจะประดับประดาไปด้วยดอกซากุระที่เบ่งบานตามท้องถนนในเมืองและชนบทอันเงียบสงบจนถึงช่วงต้นของเดือนพฤษภาคม ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิภาคแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าและปราสาทบนภูเขาอันเป็นที่เคารพสักการะมากมายของประเทศ ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงเรื่องราวในอดีตของญี่ปุ่นได้

หากคุณพร้อมที่จะออกสำรวจพื้นที่อันน่าทึ่งส่วนนี้ของประเทศญี่ปุ่นแล้ว คุณสามารถนั่งรถยนต์มาจากท่าอากาศยานมัตสึโมโตะ (Matsumoto Airport) ในเมืองนากาโน่ได้ในเวลา 75 นาที และเพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ให้ลองเช่ารถขับดูเพื่อที่คุณจะได้สำรวจมนตร์เสน่ห์ของพื้นที่แห่งนี้ได้ตามที่คุณต้องการ

Meet Jigokudani Monkey Park’s unique troop

พบกับกองทัพวานรแห่งสวนลิงจิโกคุดานิ 

สวนลิงจิโกคุดานิ (Jigokudani Monkey Park) ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติโจชิเนสึโคเก็น (Joshinetsu Kogen National Park) นั้นเป็นที่ที่คุณจะได้พบกับกองทัพวานรน่ารัก ๆ ผู้ซึ่งชอบแช่น้ำพุร้อนธรรมชาติของนากาโน่อย่างไม่มีคำว่าเบื่อหน่าย สวนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1964 เพื่อเป็นเขตอนุรักษ์ลิงแสมญี่ปุ่น หลังจากนั้นไม่นานเจ้าลิงหิมะเจ้าเล่ห์เหล่านี้ก็ได้พบว่าการแช่ออนเซ็นบนภูเขานั้นเป็นอะไรที่น่าอภิรมย์ยิ่งนัก

สวนแห่งนี้ดังไปทั่วโลกเมื่อนิตยสาร TIME นำไปขึ้นหน้าปกในปี ค.ศ. 1970 ทำให้สวนลิงหิมะก็ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับเหล่าคนรักสัตว์นับตั้งแต่นั้นมา เจ้าจ๋อประจำบ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้อาศัยประโยชน์จากออนเซ็นอยู่ตลอดปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาวที่ช่วยคลายหนาวให้พวกมันได้สุด ๆ หลังจากที่ได้เห็นเจ้าลิงเหล่านี้แช่น้ำอุ่น ๆ สบาย ๆ ไปแล้ว คุณจะต้องอยากแช่น้ำอุ่น ๆ แบบนั้นบ้างเป็นแน่แท้ในการไปเยือนออนเซ็นครั้งต่อไป

แม้ว่าสวนลิงจิโกคุดานิจะเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกล แต่คุณก็สามารถเดินทางจากในเมืองนากาโน่มายังสวนแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งไฟสาย Nagano Electric Railway เพื่อไปยังสถานี Yudanaka Station จากนั้นก็ให้นั่งรถโดยสารประจำทางในพื้นที่เพื่อไปยังสวนลิง นอกจากนี้ คุณยังสามารถนั่งรถโดยสาร Nagaden Express Bus จากสถานี Nagano Station ไปยังสวนลิงดังกล่าวได้โดยตรงอีกด้วย 

 Explore the Japanese Alps with hikes across Kamikochi and Norikura

 สำรวจเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นได้ด้วยการเดินป่าไปในคามิโคจิและโนริคุระ

เทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นนั้นมีเส้นทางเดินป่าอันงดงามที่เชื่อมต่อหากันพาดผ่านอยู่เต็มไปหมด พื้นที่ราบสูงคามิโคจิ (Kamikochi) อันห่างไกลนั้นคือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมายที่เหมาะสมต่อทั้งนักไต่เขามือใหม่และมือฉมัง เส้นทางเมียวจินสู่โทคุซาวะ (Myojin to Tokusawa Trail) เป็นเส้นทางที่ใช้เวลาเดินสบาย ๆ ประมาณสองชั่วโมงเพื่อพักผ่อนหย่อนใจไปกับผืนป่าอันงดงาม ที่ซึ่งคุณจะได้เห็นทุ่งดอกไม้ป่าสีสันสดใสในหน้าร้อนที่รายล้อมไปด้วยสระและหนองน้ำอันน่าดึงดูดใจต่าง ๆ 

เส้นทางโยคูสู่ภูเขาโจกะทาเคะ (Yokoo to Mount Chogatake Trail) จะพานักท่องเที่ยวเดินทางจากบ้านพักบนภูเขาโยคูซันโซ (Yokoo Sanso) ซึ่งเป็นเบสแคมป์ที่มีชื่อเสียง ขึ้นไปสู่เทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นที่รายล้อมอยู่ หลังจากที่เดินทางผ่านเส้นทางหินชัน ๆ ขึ้นสู่ยอดเขาโจกะทาเคะแล้ว (Mount Chogatake) ให้รางวัลตัวคุณเองด้วยการรับชมวิวพาโนรามาอันกว้างใหญ่ของเทือกเขาทั้งหมดได้อย่างเต็มที่

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานมัตสึโมโตะสามารถเดินทางไปยังภูเขาคามิโคจิได้ด้วยบริการรถรับส่งเพื่อไปยังสถานี Matsumoto Station จากนั้นให้ขึ้นรถไฟสาย Matsumoto Dentetsu Kamikochi Line เพื่อไปยังสถานี Shinshimashima Station แล้วก็ให้ขึ้นรถโดยสาร Alpico Kotsu Kamikochi Express Bus เพื่อไปยังสถานีรถโดยสาร Kamikochi Bus Terminal

ภูเขาโนริคุระ (Mount Norikura) ที่เป็นหนึ่งใน ‘ภูเขาญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง 100 ลูก’ มีน้ำตกอันเงียบสงบผ่อนคลายและทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ขณะที่เดินเท้าเป็นเวลา 40 นาทีจากสถานีรถโดยสารขึ้นสู่ยอดเขานั้น คุณจะได้ผ่านอ่างน้ำปล่องภูเขาไฟทะทะมิไดระ (Tatamidaira) และสันเขาขรุขระอันงดงามต่าง ๆ ใกล้ ๆ กับยอดเขา คุณจะได้พบกับกระท่อมคะตะโนะโคยะ (Katanokoya Hut) ที่มีของว่างและเครื่องดื่มจำหน่ายเพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการปิกนิกดูวิวหุบเขาด้านล่างที่อยู่ไกลออกไป

สำหรับการเดินทางมายังภูเขาโนริคุระ ให้ใช้การเดินทางแบบเดียวกันกับของภูเขาคามิโคจิเพื่อไปยังสถานี Shinshimashima Station เปลี่ยนไปนั่งรถโดยสาร Alpico ที่มุ่งหน้าไปยังโนริคุระโคเก็น และลงรถที่ป้าย Kanko Center Mae

Unmatched autumnal beauty at Senjojiki Cirque

ความงามแห่งฤดูใบไม้ร่วงที่เซ็นโจจิกิเซิร์กอันหาที่เปรียบมิได้

นากาโน่นั้นมีวิวเทือกเขาอันงดงามเต็มไปหมด แต่แทบไม่มีแห่งใดเลยที่สามารถเทียบเคียงความงามที่น่าตื่นตาตื่นใจของเซ็นโจจิกิเซิร์ก (Senjojiki Cirque) ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงได้ การที่วงแหวนแห่งนี้ตั้งอยู่ตรงใจกลางของเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นนั้นยิ่งทำให้การเดินทางสู่วงแหวนแห่งนี้ของคุณเปรียบเสมือนรางวัลสำหรับการกล้าเดินทางขึ้นสูงเสียดฟ้าเพื่อมายังที่แห่งนี้ด้วยกระเช้าลอยฟ้าโคมากาทาเกะ โรปเวย์ (Komagatake Ropeway) วงแหวนแห่งนี้ที่เดินทางมาเที่ยวได้ตลอดปีนั้นอยู่สูงถึง 2,600 เมตร นั่นหมายความว่านักท่องเที่ยวจะได้เห็นใบไม้หลากสีสันได้เร็วกว่าและนานกว่าในพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่า

เซ็นโจจิกิเซิร์กที่ประดับประดาไปด้วยภูมิประเทศหลากสีสันนี้ยังเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับหนึ่งในระบบน้ำตกต่อเนื่องที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น ไม่ว่าคุณเลือกที่เดินเท้าหรือชมความงามจากบนกระเช้าลอยฟ้าก็ตาม น้ำตกของหุบเขานาคาโกโช (Nakagosho Valley) จะดูมีชีวิตชีวาเสมอด้วยหิมะจากเทือกเขาที่เพิ่งละลายกลายเป็นสายน้ำไหล หากคุณวางแผนที่จะเดินท่องต่อไปในเทือกเขาหรือยังไม่อยากจะไปจากสถานที่อันสงบแห่งนี้ โรงแรมเซนโจะจิกิ (Hotel Senjojiki) คือสถานที่ที่ลงตัวสำหรับการพักค้างคืนที่นี่ พักผ่อนเอาแรงในที่พักอันสะดวกสบายที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 2,612 เมตร ก่อนที่จะไปดูดาวอันน่าดึงดูดใจจากสถานที่ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแท้ ๆ แห่งนี้

หากต้องการเดินทางมายังเซ็นโจจิกิเซิร์กจากท่าอากาศยานมัตสึโมโตะ ให้ขึ้นรถโดยสารรับส่งเพื่อไปยังสถานี Matsumoto Station จากนั้นให้นั่งรถไฟสาย JR Shinonoi Line เพื่อไปยังสถานี Okaya Station แล้วนั่งรถไฟสาย JR Chuo Branch/Lida Line เพื่อไปยังสถานี Komagane Station ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับรถโดยสารที่เดินทางไปสถานีกระเช้าลอยฟ้า Shirabi-daira Ropeway Station

Outdoor adventures at Hakuba’s Iwatake Mountain and Happo-One resorts

ออกผจญภัยกลางแจ้งได้ที่รีสอร์ท Iwatake Mountain และ Happo-One ของฮาคุบะ

หุบเขาฮาคุบะ (Hakuba Valley) ได้รับการยกย่องจากทั่วโลกว่าขึ้นชื่อในเรื่องของเนินหิมะเล่นสกีในช่วงหน้าหนาว แต่ภูมิภาคนี้ก็มีประสบการณ์น่าทึ่งต่าง ๆ ให้สัมผัสในช่วงฤดูที่มีอากาศอุ่น ๆ เช่นกัน

สนามจักรยานเสือภูเขาฮาคุบะอิวะทะเกะ (Hakuba Iwatake MTB Park) คือสถานที่ท่องเที่ยวสุดเร้าใจที่เต็มไปด้วยเส้นทางจักรยานเสือภูเขาดาวน์ฮิลอันรวดเร็วที่มีวิวอันงดงามของเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นให้ชมตามรายทาง ที่ซึ่งคุณสามารถขี่จักรยานให้ไหลไปตามเส้นทาง Alpine Downhill Course ที่ยาวถึง 6,900 เมตรเพื่อสัมผัสกับสุดยอดแห่งประสบการณ์การขี่จักรยานเสือภูเขา ทุกคนสามารถร่วมขี่จักรยานไปบนเส้นทางนี้ได้ด้วยการสอนทักษะการขี่จักรยานและรถจักรยานให้เช่า ณ ที่แห่งนี้

รีสอร์ท Happo-One Mountain Resort ที่อยู่ไม่ไกลออกไปนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดปลายทางมหัศจรรย์นอกเหนือไปจากในช่วงฤดูหนาว นั่งลิฟต์เก้าอี้ขึ้นไปยังเนินเขาและเดินต่อเพลิน ๆ อีก 90 นาทีเพื่อไปยังบึงฮัปโป (Happo-ike Pond) อันเก่าแก่ที่ ซึ่งมีภาพของยอดเขาโดยรอบสะท้อนอยู่บนผืนน้ำอย่างงดงาม ซึ่งในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งนั้น นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นภูเขาที่อยู่ห่างออกไปกว่า 200 กิโลเมตรจากที่สูงแห่งนี้ได้สบาย ๆ

Sky Blue Happo-One Paraglider School นำเสนอมุมมองที่สุดขั้วกว่าเดิมด้วยการบินคู่ไปกับนักบินมืออาชีพเพื่อชมวิวอันงดงามจากฟากฟ้า ในขณะเดียวกัน Hakuba Happo Onsen นั้นก็เหมาะอย่างยิ่งเพื่อเอาไว้คลายความเมื่อยล้าให้ขาของคุณหลังจากที่ทำกิจกรรมมาอย่างยาวนานทั้งวัน

หากต้องการมายังรีสอร์ท Hakuba Iwatake Mountain Resort ให้นั่งบริการรถรับส่งจากท่าอากาศยานมัตสึโมโตะเพื่อไปยังสถานี Hotaka Station ให้นั่งรถไฟสาย JR Oito Line เพื่อไปยังสถานี Shinano-Moriue Station จากนั้นก็ให้เดินต่อหรือเรียกแท็กซี่ หากต้องการไปยังรีสอร์ท Happo-One Mountain Resort ให้นั่งรถไฟสาย JR Oito Line เพื่อไปยังสถานี Hakuba Station จากนั้นก็ให้นั่งรถโดยสารประจำทางสาย Sarakura Line เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของคุณ

Karuizawa’s stunning waterfalls, cherry blossoms, and castle ruins

น้ำตกอันน่าทึ่ง, ดอกซากุระ และซากปราสาทของคารุอิซาวะ

อย่าเข้าใจผิดว่านี่คือน้ำตกเดียวกันกับน้ำตกที่อยู่ตรงเชิงภูเขาไฟฟูจิที่มีชื่อเหมือนกันด้วย เพราะที่น้ำตกชิราอิโตะของคารุอิซาวะ (Karuizawa's Shiraito Falls) แห่งนี้ คุณจะได้เห็นสายน้ำที่หลั่งไหลผ่านหินสีดำลดหลั่นลงมาจากความสูงถึง 70 เมตรอย่างงดงาม 

น้ำตกชิราอิโตะซึ่งรายล้อมไปด้วยพืชเขียวชอุ่มที่แขวนประดับประดาน้ำตกสูงอยู่นั้นมอบประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับผู้พบเห็นได้เมื่อภูมิประเทศโดยรอบเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงต่าง ๆ หากคุณวางแผนที่จะมายังน้ำตกแห่งนี้จากท่าอากาศยานมัตสึโมโตะ ให้นั่งรถไฟสาย JR Shinano Line จากสถานี Matsumoto Station เพื่อไปยังสถานี Nagano Station จากนั้นให้นั่งรถไฟชินคันเซ็นต่ออีก 30 นาทีเพื่อไปยังสถานี Karuizawa Station แล้วนั่งรถโดยสาร Kusakaru Kotsu เพื่อไปลงที่ป้าย Shiraito no Taki

มีสถานที่งดงามอย่างยิ่งอีกแห่งหนึ่งห่างออกไปอีกไม่กี่กิโลเมตรทางใต้รอคุณอยู่ในคารุอิซาวะ ซึ่งก็คือสระน้ำคุโมบะ (Kumoba Pond) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลายทางธรรมชาติอันงดงามที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดทั้งปี ในฤดูร้อน ผืนน้ำแห่งนี้จะดูงดงามไปด้วยภาพสะท้อนสีเขียวที่ตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็จะทำให้ผืนน้ำแห่งนี้เปลี่ยนเป็นสีแดง, ส้ม และเหลืองที่จากแมกไม้ที่รายล้อมอยู่ สระน้ำแห่งนี้ได้ชื่อเล่นว่า ‘ทะเลสาบหงส์ (Swan Lake)’ ตามความงดงามและสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ คุณสามารถเดินทางมาสระน้ำคุโมบะได้ด้วยการนั่งรถไฟชินคันเซ็นจากสถานี Nagano Station เพื่อไปยังสถานี Karuizawa Station จากนั้นก็ให้เดินต่ออีก 20 นาทีไปตามถนนคุโมบะฮาระ (Kumobahara Street) ที่มีต้นไม้ประดับประดาอยู่

นากาโน่ขึ้นชื่อในเรื่องฤดูชมดอกซากุระ คุณสามารถบันทึกหนึ่งในภาพอมตะที่สุดได้ที่ซากปราสาทโคโมโระ (Komoro Castle Ruins) เดินผ่านเข้าไปในประตูปราสาทที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1554 เพื่อดูใบไม้ช่วงฤดูใบไม้ร่วงและดอกซากุระที่ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับพื้นที่อันเงียบสงบแห่งนี้ คุณสามารถเดินทางมาสำรวจซากปราสาทแห่งนี้ได้ด้วยการนั่งรถไฟสาย JR Shinonoi Line เพื่อไปยังสถานี Komoro Station แล้วก็เดินต่ออีก 800 เมตร อีกทางเลือกหนึ่งก็คือให้นั่งรถไฟสาย Hokuriku Shinkansen จากสถานี Nagano Station เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย Shinano Tetsudo Line ที่สถานี Ueno Station เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานี Komoro Station

Experience Shiga Kogen’s UNESCO biosphere reserve

สัมผัสเขตสงวนชีวมณฑลขององค์การยูเนสโกแห่งชิกะโคเก็น

ชิกะโคเก็นที่เริ่มโด่งดังในระดับนานาชาติหลังจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี ค.ศ. 1998 ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในเขตสงวนชีวมณฑลที่เก่าแก่ที่สุด 10 แห่งของญี่ปุ่น ด้วยสภาพภูมิประเทศอันน่าทึ่งที่ก่อตัวขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ยอดเขาสูงเสียดฟ้าที่มีหิมะปกคลุมไปจนถึงทุ่งนาและสวนผลไม้ต่าง ๆ

ในช่วงฤดูหนาว สถานที่แห่งนี้จะคับคั่งไปด้วยนักเล่นสกีและนักเล่นสโนว์บอร์ดที่หลั่งไหลมาเล่นบนเนินหิมะละเอียด ๆ ที่มีเส้นทางต่าง ๆ ให้เล่นรวมกันยาวถึง 80 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนที่มีอากาศอุ่น ที่แห่งนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมต่อการสำรวจ ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นเดินทางเดินป่าขึ้นเขาที่จะนำคุณไปพบกับแหล่งน้ำและพื้นที่ชุ่มน้ำอันงดงามตามชนบทต่าง ๆ ชิกะโคเก็นที่อุดมไปด้วยพันธุ์พืชราว 500 สายพันธุ์นั้นดูน่ามหัศจรรย์อย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

นอกจากจะมีเส้นทางยอดเยี่ยม ๆ สำหรับนักเดินป่ามือใหม่และนักเดินป่ามากประสบการณ์แล้ว บริเวณแห่งนี้ยังจัดว่าเป็นจุดหมายปลายทางชั้นเลิศของการขี่จักรยานด้วย ด้วยระดับความสูง 2,172 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เส้นทางชิบุพาส (Shibu Pass) ตามแนว National Route 292 จึงเป็นจุดชมวิวที่ไม่มีใครเหมือนที่อยู่เหนืออุทยานแห่งชาติโจชิเนสึโคเก็น 

คุณสามารถเดินทางมายังชิกะโคเก็นจากตัวเมืองนากาโน่ได้โดยจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที ด้วยการนั่งรถไฟ Nagano Electric Railway เพื่อไปยังสถานี Yudanaka Station จากนั้นก็เปลี่ยนไปนั่งรถโดยสาร Nagaden แล้วลงที่ป้าย Shiga Kogen Yamanoeki

บินมุ่งหน้าสู่นากาโน่ด้วย Japan Airlines

คุณจะได้อ้าปากค้างไปกับวิวอันน่าทึ่งได้ทันทีตั้งแต่วินาทีที่คุณมาถึงนากาโน่ ไม่มีคคำว่า “น่าเบื่อหน่าย” ในภูมิภาคมหัศจรรย์สีสันสดใสแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าบนเทือกเขาที่งามหยดย้อยไปจนถึงทุ่งดอกซากุระที่ผลิบานอย่างละลานตา

หากคุณพร้อมที่จะจองทริปไปเยือนนากาโน่กับเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่นทางตอนเหนือที่โด่งดังแล้วล่ะก็ Japan Explorer Pass ของเราช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ในประเทศนี้มากยิ่งขึ้นได้ในราคาที่ยอดเยี่ยม สำรวจความมหัศจรรย์แห่งนากาโน่และอีกกว่า 30 เมืองในเครือข่ายเส้นทางภายในประเทศของ JAL ได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น

สำรวจ นางาโนะ

ค้นพบกิจกรรมมากมายใน นางาโนะ

ความมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว: พักผ่อนในนากาโน่ พร้อมทานอาหารในอิกลูเพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบครั้งหนึ่งในชีวิต
อาหาร

ความมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาว: พักผ่อนในนากาโน่ พร้อมทานอาหารในอิกลูเพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบครั้งหนึ่งในชีวิต

สำรวจดินแดนมหัศจรรย์ในนากาโน่ ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น รับประทานอาหารในอิกลูเพื่ออบอุ่นร่างกายด้วยฮอตพอตร้อน ๆ แสนอร่อย

สัมผัสธรรมชาติและอุทยานต่าง ๆ ในนากาโน่
ธรรมชาติและสวนสาธารณะ

สัมผัสธรรมชาติและอุทยานต่าง ๆ ในนากาโน่

เชิญออกไปสำรวจจังหวัดนากาโน่อันเงียบสงบที่เปี่ยมไปด้วยเส้นทางเดินป่าอันงดงามที่พาดผ่านอยู่ทั่วเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น, ดอกซากุระ และความงดงามแห่งช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ปรากฏอยู่ในทุกแห่งกันได้แล้ว

แหล่งเล่นสกีในนากาโน่ที่คุณไม่ควรพลาด
กิจกรรมกลางแจ้ง

แหล่งเล่นสกีในนากาโน่ที่คุณไม่ควรพลาด

นากาโน่ที่มีเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่นอันงดงามและเป็นสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี ค.ศ. 1998 นั้นเป็นสถานที่ที่คุณห้ามพลาด หากคุณชื่นชอบการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด

ไปยังที่แห่งนั้น