5 วิธีในการสำรวจป่าไผ่ชื่อก้องโลกของญี่ปุ่น

เดินป่า, ดูฝูงลิง และผ่อนคลายได้ในป่าแห่งอาราชิยามะ

ป่าอาราชิยามะอันงดงามนั้นดึงดูดผู้คนได้ในทุกฤดูกาล ซึ่งสิ่งที่พบเห็นนั้นก็เป็นที่ประจักษ์ว่าทำไมธรรมชาติของที่นี่ถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นอย่างมาก อาราชิยามะเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับการชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งนักท่องเที่ยวนั้นก็ยังคงหลั่งไหลมายังที่แห่งนี้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อชมใบไม้ของช่วงนี้ที่จะเปลี่ยนสีไป

เมื่อฤดูหนาวมาถึง เทศกาลประดับโคมไฟ (Arashiyama Hanatoro Illumination) ประจำเดือนธันวาคมนั้นก็จะมาถึงด้วยเช่นกัน ซึ่งจะจัดขึ้นในย่านฮิกาชิยามะ (Higashiyama) ของเกียวโตในเดือนมีนาคมด้วย ซึ่งเป็นเทศกาลประดับโคมไฟที่จัดขึ้นสองครั้งต่อปีที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจและเต็มไปด้วยโคมไฟนับหลายพันดวงที่ประดับประดาตามจุดหมายปลายทางยอดนิยมต่าง ๆ อาทิ วัดโบราณ, ศาลเจ้า และแม้แต่ป่าไผ่อันอุดมสมบูรณ์แห่งอาราชิยามะ โดยที่การจุดโคมไฟตามไหล่เขาและป่าไผ่นั้นจะกระทำกันนานเป็นเวลา 10 วัน ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ของอาราชิยามะและเกียวโตให้แก่เหล่านักท่องเที่ยว

ในช่วงฤดูที่มีอากาศอุ่นขึ้น วิธีที่ดีที่สุดในการมายังอาราชิยามะนั้นก็คือการล่องเรือผจญภัยไปตามแม่น้ำโฮซูกาวะ (Hozugawa River) อันงดงาม การล่องเรือไปตามแม่น้ำโฮซูกาวะนั้นกินเวลาประมาณสองชั่วโมงที่จะเดินทางออกจากเมืองคาเมโอกะ (Kameoka) มายังอาราชิยามะ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาที่แห่งนี้ได้ด้วยการนั่งรถไฟมายังสถานี JR Saga-Arashiyama Station หรือสถานี Arashiyama Station หากนั่งรถราง Randen หากคุณต้องการเลี่ยงฝูงชนที่ล้นหลาม คุณควรเริ่มออกสำรวจอาราชิยามะในช่วงเช้าตรู่ อย่าลืมเผื่อเวลาไว้อย่างน้อยครึ่งวันเพื่อที่คุณจะได้สำรวจทุกสิ่งทุกอย่างในอาราชิยามะได้ ซึ่งรับประกันได้เลยว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างให้คุณทำแน่นอน 

ที่ซึ่งยุคเก่ามาบรรจบกับยุคใหม่: สำรวจผลงานศิลปะมากมายได้ในป่ากิโมโนแห่งอาราชิยามะ

เราบอกได้เลยว่าป่ากิโมโนแห่งเกียวโต (Kyoto’s Kimono Forest) นั้นจะไม่เหมือนป่าที่คุณได้เคยพบเห็นมาก่อนแน่นอน แทนที่จะเป็นป่าต้นไผ่สีเขียวสูงลิ่ว (ไม่ต้องห่วง เราจะพูดถึงป่าไผ่ที่ว่านั้นในภายหลังแน่นอน) “ป่า” ยุคใหม่ที่ว่านี้กลับประกอบไปด้วยเสาทรงกระบอกหลากสีสันสดใสประมาณ 600 ท่อนที่มาพร้อมกับผลงานศิลปะผ้าทออันประณีตบรรจงเรียงรายไปตามทางเดินปูพื้นใกล้ ๆ กับสถานีรถราง Randen ของอาราชิยามะ

เสาแต่ละต้นมีความสูงสองเมตรและการออกแบบต่าง ๆ ที่จัดแสดงบนเสานั้นได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นในรูปแบบเคียวยูเซ็น (Kyo-yuzen) แบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการย้อมแผงผ้าไหมด้วยลวดลายการออกแบบหลากสีสันอันประณีตบรรจงอย่างยิ่ง ที่มักพบเห็นได้ในการทำกิโมโนแบบดั้งเดิม การออกแบบและการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเหล่านี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างศิลปินที่มีนามว่ายาสุมิจิ โมริตะ (Yasumichi Morita) กับ Kamedatomi ซึ่งเป็นโรงงานทอผ้าที่ถือกำเนิดมากว่าร้อยปีแล้ว

ทุกวันนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังภูมิภาคนี้สามารถเดินเที่ยวชมป่ายุคใหม่สีสันสดใสนี้ได้เองพร้อมหยุดแวะชม Ryu no Atago ซึ่งเป็นสระน้ำเล็ก ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถหยุดแวะขอพรให้ตนเองได้ และเมื่อตกเย็น ป่ากิโมโนก็จะสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ LED เรืองรอง ที่จะทำให้ฉากยามเย็นอันงดงามของอาราชิยามะนั้นดูราวกับเหมือนเป็นฉากในฝัน 

ป่ากิโมโนแห่งนี้อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีรถราง Arashiyama Randen ซึ่งคุณสามารถชมเสาสีสันสดใสที่ไม่ควรพลาดนี้ได้ตั้งแต่ที่ลงมาจากรถ

สัมผัสวัดวัดเทนริวจิอันร่มเย็นพร้อมเอร็ดอร่อยไปกับมื้อเที่ยงต้นตำหรับญี่ปุ่นแท้ ๆ

วัดเทนริวจิ (Tenryuji Temple) ได้รับการเชิดชูให้เป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก ซึ่งทำให้สถานที่พิเศษของเกียวโตแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งแหล่งมรดกโลก 23 แห่งของญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1399 วัดเทนริวจิเป็นวัดนิกายเซนที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโต และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นวัดนิกายเซนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด

วัดเทนริวจิซึ่งเป็นสถานที่ในฝันของเหล่านักสำรวจนั้นเต็มไปด้วยทางเดิน, ส่วนที่ตกแต่งอย่างงดงาม และอาคารของวัดที่สวยงามต่าง ๆ ฤดูใบไม้ร่วงนั้นเป็นช่วงเวลายอดนิยมในการมายังวัดแห่งนี้ ที่ซึ่งใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะช่วยเพิ่มสีสันให้วัดแห่งนี้ได้

หลังจากที่ออกสำรวจในช่วงเช้ากันไปแล้ว นักท่องเที่ยวที่ท้องกำลังร้องสามารถอิ่มอร่อยไปกับอาหารกลางวันแบบฉบับญี่ปุ่นที่ชิเก็ตสึ (Shigetsu) ซึ่งเป็นร้านอาหารอันกว้างใหญ่สไตล์วัดที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของวัดเทนริวจิที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ร้านอาหารแห่งนี้ที่ได้รับรางวัลดาวมิชลินให้บริการอาหารมังสวิรัติล้วนที่เสิร์ฟในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ซึ่งเหล่านักชิมที่เดินทางมายังเกียวโตนั้นไม่ควรพลาดประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ร้านนี้เด็ดขาด 

คุณสามารถเดินเท้าจากสถานี Arashiyama Randen เพื่อมายังวัดเทนริวจิได้

สำรวจป่าไผ่ซากาโนะอันร่มรื่น 

หลังจากเติมพลังด้วยอาหารกลางวันแบบญี่ปุ่นไปแล้ว ให้คุณมุ่งหน้าต่อไปที่ป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest) ของเกียวโต ป่าไผ่ที่อยู่นอกอาราชิยามะแห่งนี้ประกอบไปด้วยทางเดินปูพื้นที่มักได้พบเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นให้เดินทางเป็นประจำ ป่าแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นป่าไผ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าทำไมป่าไผ่ซากาโนะอันกว้างใหญ่ไพศาล (มีพื้นที่รวม 16 ตารางกิโลเมตร) และน่าตื่นตาตื่นใจแห่งนี้ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพมากที่สุดในเกียวโต

คุณสามารถไปเยือนป่าไผ่ชื่อเสียงก้องโลกแห่งนี้ได้ผ่านทางวัดเทนริวจิ เพียงแค่เดินออกไปทางประตูทิศเหนือเพื่อไปยังทางเดินป่าไผ่ หลังจากนั้น คุณจะได้รับการต้อนรับโดยเสียงกรอบแกรบอันเงียบสงบของใบไผ่พร้อมตื่นตะลึงไปกับสีเขียวเฉดต่าง ๆ ของป่าไผ่ที่โอนเอนไปมา

ชมภูเขาและสายน้ำอันงดงามได้ในสวนคาเมะยาม่า 

สวนคาเมะยาม่า (Kameyama Park) ที่ตั้งอยู่ตรงส่วนท้ายสุดของป่าไผ่ซากาโนะนั้นคือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจจากชีวิตสมัยใหม่อันเร่งรีบและวุ่นวาย ด้วยปริมาณผู้คนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับป่าไผ่ยอดฮิตและอาราชิยามะอันจอแจ สวนบนยอดเขาแห่งนี้คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอันเงียบสงบสำหรับผู้ที่เต็มใจจะก้าวขึ้นไปตามขั้นบันไดหิน

สวนคาเมะยาม่าประกอบไปด้วยทางเดินป่าเพื่อเอาไว้ให้สำรวจมากมายที่มีวิวงดงามให้ชมอย่างไม่ขาดสาย อาทิ ภาพวิวของภูเขาอาราชิยามะที่ปกคลุมไปด้วยผืนป่า, แม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) และสะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) อันเป็นสัญลักษณ์ที่ก่อสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 794 ถึง 1185

เดินต่อไปยังจุดชมวิวเพื่อรับชมวิวพาโนรามาของเกียวโตเบื้องล่าง และอย่าลืมมองหาเพื่อนวานรขี้เล่นแถวนั้นเมื่อได้มาเยือนสวนคาเมะยาม่า ที่ซึ่งคุณจะได้พบเห็นลิงหิมะที่ลงมาจากอิวะทะยะมะ (Iwatayama) หรือสวนลิงได้แถวนี้เป็นประจำ  

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังสวนบนยอดเขาแห่งนี้ได้ด้วยการเดินขึ้นมาตามทางเดินของป่าไผ่ซากาโนะ 

การผจญภัยรอคุณอยู่: วางแผนทริปไปเกียวโตของคุณได้แล้ว 

ไม่ว่าคุณจะสนใจในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นหรือมองหาสถานที่พักผ่อนจากความวุ่นวายในเมืองก็ตาม เกียวโตนั้นมีบางสิ่งบางอย่างให้ทุกคนเสมอ แม้ว่าเกียวโตจะไม่มีท่าอากาศยาน แต่การมาเยือนเมืองโบราณแห่งนี้นั้นง่ายมาก ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากที่ไหนก็ตาม

นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเกียวโตได้อย่างง่ายดายด้วยการลงเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ (KIX) ในโอซาก้า ซึ่งทริปที่รวดเร็วนั้นจะใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เมื่อถึงสนามบินแล้ว ขบวนรถไฟที่รวดเร็วสามารถให้คุณโดยสารจากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซเพื่อมายังเกียวโตได้ในเวลาชั่วโมงกว่า ๆ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึง ณ โตเกียวสามารถใช้ประโยชน์ของ Japan Explorer Pass ซึ่งเป็นค่าโดยสารราคาประหยัดที่เรียบง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะสำรวจญี่ปุ่น ที่นำเสนอการเดินทางไปยังเมืองที่โดดเด่นต่าง ๆ กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ยิ่งไปว่านั้น สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมต่าง ๆ ของ Japan Airlines เช่น Wi-Fi ฟรีบนทุกเที่ยวบินภายในประเทศและที่นั่งชั้นประหยัดที่ได้รับรางวัล ยังจะช่วยให้คุณได้เชื่อมต่อและสะดวกสบายได้ขณะที่คุณเดินทางไปในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย