ฮอกไกโด
|
ธรรมชาติและสวนสาธารณะ

อุทยานและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดต่าง ๆ ของฮอกไกโด

อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโด สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามที่สุด
Hokkaido’s Best Parks and Nature Attractions

ตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวหน้าหนาวที่โดดเด่นไปจนถึงกิจกรรมหน้าร้อนมากมายในฮอกไกโด จุดหมายปลายทางแห่งนี้มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่นักท่องเที่ยวจะต้องหลงใหล ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมไปจนถึงชายฝั่งอันงดงามของญี่ปุ่น คุณสามารถสำรวจแหล่งท่องเที่ยวกลางแจ้งต่าง ๆ ในฮอกไกโดได้ตลอดทั้งปี

สัมผัสมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติในฮอกไกโด

ฮอกไกโดนั้นมักเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นที่สุดแห่งจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด อย่างไรก็ตาม ดินแดนแห่งนี้ก็ยังมีสิ่งต่าง ๆ ให้ทำมากมายในช่วงฤดูใบไม้ผลิ, ฤดูร้อน และฤดูใบไม้ร่วงเช่นกัน การเดินท่องไปในป่าหลากสีสัน, การแช่ตัวลงในน้ำพุร้อนอุ่น ๆ, การเดินอย่างสนุกสนานไปตามทุ่งลาเวนเดอร์และซากุระที่ผลิบานนั้นเป็นเพียงความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติเพียงไม่กี่อย่างที่คุณจะสัมผัสได้ในที่แห่งนี้

Shiretoko

ชิเรโตโกะ

ผู้ที่เดินทางมายังที่แห่งนี้เป็นครั้งแรกต่างถามกันว่า “ชิเรโตโกะนั้นแปลว่าอะไร” คำนี้เป็นภาษาของชาวไอนุ (Ainu) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของฮอกไกโด โดยมีความหมายว่า “จุดสุดขอบโลก” หรือ “ส่วนที่ยื่นออกมาของโลก” อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโด สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามที่สุด ชิเรโตโกะเป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด ที่มีทั้งสุนัขจิ้งจอก, กวาง และหมีสีน้ำตาล

นอกจากนี้ ชิเรโตโกะยังขึ้นชื่อในเรื่องของกิจกรรมฤดูหนาวต่าง ๆ ชายฝั่งของทะเลโอคอตสค์ (Okhotsk Coast) จะจับตัวกันเป็นธารน้ำแข็งตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมไปจนถึงมีนาคม ก่อให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งซึ่งรวมไปถึงการเดินบนธารน้ำแข็ง (Drift Ice Walk) ที่ให้คุณเดินบนพื้นผิวน้ำทะเลที่จับตัวเป็นน้ำแข็งได้ ซึ่งเป็นประสบการณ์เหลือเชื่อที่คุณจะไม่สามารถพบได้ในที่อื่นใดอีกในโลก ที่ซึ่งคุณสามารถแช่ตัวในน้ำทะเลท่ามกลางน้ำแข็งต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวชิเรโตโกะนั้นคือช่วงฤดูร้อนสำหรับการเดินป่า คุณสามารถสำรวจ คุณสามารถสำรวจทะเลสาบชิเรโตโกะด้วยหนึ่งในเส้นทางเดินป่ามากมาย หรือเพลิดเพลินไปกับการว่ายน้ำตามบ่อน้ำพุร้อนต่าง ๆ หนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือน้ำตกร้อนคะมุยวักกะ (Kamuiwakka Hot Falls) ซึ่งเป็นแม่น้ำตามธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครที่ไหลมาจากภูเขาชิเรโตโกะ-อิโว (Mt. Shiretoko-Iwo) อันเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ 

สถานที่ยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งคืออุโทโระ (Utoro) ที่ซึ่งน้ำนั้นมีส่วนผสมของธาตุเหล็กและโซเดียมอยู่อันเป็นจุดขายของสถานที่แห่งนี้ ที่นี่มีโรงแรมกับเกสต์เฮาส์ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้ค้างคืนด้วย ซึ่งบางแห่งนั้นจะสามารถชมวิวของทะเลโอคอตสค์ได้

ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะมากที่สุดคือท่าอากาศยานเมมัมเบ็ตสึ (Memanbetsu Airport) ในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวนั้นจะมีรถโดยสารเดินทางโดยตรงระหว่างท่าอากาศยานกับอุโทโระไว้ให้บริการ คุณยังสามารถเดินทางมายังท่าอากาศยานนาคาชิเบ็ตสึ (Nakashibetsu Airport) ได้ด้วย ที่มีรถโดยสารให้บริการไปยังราอุสึ (Rausu) ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กอีกแห่งหนึ่งในชิเรโตโกะ

Daisetsuzan National Park

อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park)

ไดเซ็ตสึซังเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของฮอกไกโดและเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของกวางและหมีสีน้ำตาลมากมาย อุทยานแห่งนี้เป็นสวรรค์สำหรับผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและนักเดินป่า และยังเป็นสถานที่แห่งแรกในญี่ปุ่นที่จะได้เห็นสีสันต่าง ๆ แห่งฤดูใบไม้ผลิและหิมะแห่งฤดูหนาวอีกด้วย

ไดเซ็ตสึซังขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติอันสงบและภูเขาที่สูงตระหง่าน ที่ทำให้อุทยานแห่งนี้ได้ชื่อเล่นว่า “หลังคาแห่งฮอกไกโด” และ “สนามเด็กเล่นของพระเจ้า” ที่ไดเซ็ตสึซังแห่งนี้คุณจะสามารถมองเห็นภูเขาโทมุรุชิ (Mount Tomuraushi) และเทือกเขาโทคาจิ (Tokachi) กับอิชิคาริ (Ishikari) ได้ด้วย

คุณจะได้สัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ทั่วไดเซ็ตสึซังได้ตลอดปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิกับฤดูร้อน ดอกไม้จะผลิบานอยู่เต็มทุ่งหญ้า ที่ซึ่งคุณสามารถยลโฉมความงดงามได้จากกระเช้าลอยฟ้า Kurodake Ropeway การเดินป่าในญี่ปุ่นของคุณนั้นจะยังไม่สมบูรณ์หากคุณไม่ได้เดินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อชมใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีต่าง ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 

ยังไม่หนำใจกับการเล่นสกีในฤดูหนาวใช่ไหม ไดเซ็ตสึซังมีฤดูเล่นสกีที่นานที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม คุณสามารถเล่นสกีได้ตามเนินหิมะต่าง ๆ ของภูเขาอาซาฮิดาเกะ (Mt. Asahidake) แล้วก็ค่อยไปเติมความอบอุ่นให้ร่างกายได้ที่ออนเซ็นอาซาฮิดาเกะ (Asahidake Onsen) นอกจากนี้ คุณยังสามารถไปเยือนทะเลสาบนุกาบิระ (Lake Nukabira) ที่คุณจะได้ยลโฉมของ ‘สะพานปิศาจ (Phantom Bridge)’ เมื่อระดับน้ำลดลง

คุณสามารถเดินทางมายังไดเซ็ตสึซังได้อย่างง่ายดายด้วยท่าอากาศยานอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Airport) จากนั้นก็เลือกเช่ารถหรือนั่งรถโดยสารไปยังสถานี Asahikawa Station ที่ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของอุทยานแห่งนี้

Akan-Mashu National Park

อุทยานแห่งชาติอะคังมาชู

อุทยานแห่งชาติอะคังมาชู (Akan-Mashu National Park) คือบ้านของชาวไอนุซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของญี่ปุ่น และเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและสิ่งมหัศจรรย์ด้านวัฒนธรรมมากมาย อุทยานแห่งนี้เป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น สุนัขจิ้งจอกแดง, นกหัวขวานดำ, อินทรีหางขาว และแม้แต่นกเค้าใหญ่บลาคิสตันที่หายาก อะคังมาชูมีทะเลสาบอันงดงามที่โด่งดังสามแห่ง ได้แก่ อะคัง (Akan), มาชู (Mashu) และคุชชะโระ (Kussharo) ที่มีกิจกรรมกลางแจ้งให้ทำอย่างหลากหลายตลอดทั้งปี

ทะเลสาบอะคังขึ้นชื่อในเรื่องของบ่อน้ำพุร้อนของทะเลสาบในช่วงฤดูร้อน ในช่วงฤดูหนาว สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติจะช่วยให้สถานที่แห่งนี้ดูงดงามได้อย่างน่าทึ่งเกินจะบรรยาย ไอน้ำที่ผุดขึ้นมาจากทะเลสาบจะจับตัวเป็นผลึกน้ำแข็งเนื่องจากอุณหภูมิที่หนาวเย็น และแปลงโฉมทะเลสาบให้กลายเป็นทุ่งดอกไม้น้ำแข็งที่บอบบาง สำหรับคำถามว่า “ฉันจะไปยังทะเลสาบอะคังได้อย่างไร” มีรถโดยสารหลายสายที่เดินทางจากท่าอากาศยานคุชิโระ (Kushiro Airport) มายังสถานที่แห่งนี้โดยตรง คุณยังสามารถขึ้นรถโดยสารจากท่าอากาศยานเมมัมเบ็ตสึเพื่อเดินทางไปยังอะบาชิริ (Abashiri) แล้วนั่งรถไฟสาย JR Senmo Line ต่อ

แม้ว่าทะเลสาบมาชูมักจะถูกปกคลุมไปด้วยหมอก แต่ทะเลสาบแห่งนี้ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีน้ำใสที่สุดในโลก ที่นี่มีจุดชมวิวที่มองเห็นวิวได้เกือบ 360 องศาที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่อยู่ระหว่างทะเลสาบมาชูและทะเลสาบคุชชะโระ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดูดาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อน ทั้งทะเลสาบคุชชะโระและสะพานทาคิมิ (Takimi Bridge) นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการบันทึกภาพในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้ต่าง ๆ จะพากันอวดโฉมสีสันสีแดงและทองอย่างงดงามตา 

สำหรับคนที่ถามว่า “ฉันจะไปยังทะเลสาบอะคังได้อย่างไร” มีรถโดยสารหลายสายที่เดินทางจากท่าอากาศยานคุชิโระมายังสถานที่แห่งนี้โดยตรง คุณยังสามารถขึ้นรถโดยสารจากท่าอากาศยานเมมัมเบ็ตสึเพื่อเดินทางไปยังอะบาชิริ (Abashiri) แล้วนั่งรถไฟสาย JR Senmo Line ต่อ คุณสามารถเดินทางจากทะเลสาบอะคังเพื่อมายังทะเลสาบมาชูและทะเลสาบคุชชะโระได้ด้วยรถโดยสารประจำทาง อย่างไรก็ตาม การเช่ารถขับเพื่อสำรวจอุทยานนั้นจะเป็นตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกกว่า

Uncrowded Islands: Rishiri Island & Okushiri Island

เกาะที่มีผู้คนบางตา: เกาะริชิริและเกาะโอคุชิริ

หากคุณชอบความเป็นส่วนตัวที่ห่างไกลจากแหล่งท่องเที่ยวที่คับคั่งไปด้วยผู้คนแล้วล่ะก็ เกาะริชิริ (Rishiri) และโอคุชิริ (Okushiri) นั้นคือสถานที่ที่คุณควรไปสำรวจ

เกาะริชิริตั้งอยู่ตรงส่วนปลายสุดของทะเลญี่ปุ่น (Sea of Japan) ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับภูเขาริชิริ (Mount Rishiri) อันเป็นภภูเขาไฟที่สงบลงแล้ว ณ ใจกลางของเกาะ คุณสามารถเดินไปตามชายฝั่งรูปวงกลมตรงส่วนฐานของภูเขาได้เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามต่าง ๆ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนเกาะริชิริคือตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ผลิบานอย่างเต็มที่ ในช่วงหน้าหนาว เนินหิมะของเกาะแห่งนี้จะมีผู้เดินทางมาเล่นสกีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับรีสอร์ทสกีดัง ๆ ในนิเซโกะ (Niseko) เกาะริชิริยังขึ้นชื่อในเรื่องหิมะเนื้อละเอียดอันน่าดึงดูดใจที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ในช่วงฤดูหนาว

โอคุชิริขึ้นชื่อในเรื่องของการเรียงตัวของหินที่น่าตื่นตาตื่นใจตามแนวชายฝั่งและน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่มักได้รับการขนานนามว่า “สีน้ำเงินแห่งโอคุชิริ (Okushiri Blue)” เกาะแห่งนี้คือสถานที่แห่งการเดินและการปั่นจักรยาน รวมไปถึงการแช่ตัวผ่อนคลายตามบ่อน้ำพุร้อนต่าง ๆ พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ในป่าของเกาะนั้นคือไม้บีชซึ่งให้ทัศนียภาพที่ดูน่าอัศจรรย์ได้ในทุกฤดู ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเดินขึ้นไปยังยอดของภูเขาทามาชิมะ (Tamashima) หรือที่เรียกกันว่าคิวอุจิมะ (Kyuujima) เพื่อชมวิวพาโนราม่าแบบ 360 องศาของเกาะหลักฮอกไกโด 

เที่ยวบินที่เดินทางไปยังสนามบินของเกาะสองแห่งนี้มีให้โดยสารเป็นประจำ ซึ่งคุณสามารถตรวจดูตารางบินล่าสุดได้ผ่านทางเว็บไซต์ คุณยังสามารถบินไปลงท่าอากาศยานวัคคาไน (Wakkanai Airport) และนั่งเรือข้ามฟากไปยังเกาะริชิริได้ อีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางไปยังเกาะโอคุชิริก็คือการบินไปลงท่าอากาศยานฮาโกดาเตะ (Hakodate Airport) ซึ่งต้องนั่งรถโดยสารต่ออีกสองชั่วโมงเพื่อไปยังท่าเรือของเอซาชิ (Esashi) และนั่งเรือข้ามฟากต่ออีกสองชั่วโมงเพื่อไปยังไปยังเกาะโอคุชิริ

Cherry Blossom: Matsumae

ดอกซากุระ: มัตสึมาเอะ

สวนมัตสึมาเอะ (Matsumae Park) เป็นเมืองปราสาทเก่าใกล้กับแหลมชิราคามิ (Cape Shirakami) ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ททางใต้สุดของฮอกไกโด สวนแห่งนี้มีต้นซากุระกว่า 10,000 ต้นและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือนมัตสึมาเอะคือช่วงที่พืชพันธุ์ต่าง ๆ นั้นผลิบานอย่างเต็มที่ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนไปจนถึงปลายพฤษภาคม ที่จะมีต้นซากุระกว่า 250 สายพันธุ์ให้ชมรอบ ๆ สวนมัตสึมาเอะ ซึ่งหนึ่งในวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดนั้นก็คือปราสาทมัตสึมาเอะ (Matsumae Castle) หรือเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่าปราสาทฟุคุยามะ (Fukuyama Castle) ที่รายล้อมไปด้วยดอกซากุระ นอกเหนือไปจากสถานที่ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีสวนอื่น ๆ ที่คุณสามารถไปชมได้ เช่น สวนกุหลาบ (Rose Garden) และสวนพีโอนี (Peony Garden)

วิธีการเดินทางไปยังมัตสึมาเอะที่ดีที่สุดก็คือการนั่งเครื่องบินไปลงที่ท่าอากาศยานฮาโกดาเตะ เมื่อคุณมาถึงแล้ว คุณสามารถนั่งรถรับส่งเพื่อไปยังสถานี Hakodate Station จากนั้นให้นั่งรถโดยสารต่อเพื่อไปยังมัตสึมาเอะ 

Flower Fields: Kamifurano

ทุ่งดอกไม้: คามิฟุราโนะ

คามิฟุราโนะ (Kamifurano) เป็นเมืองขนาดเล็กที่อยู่ ณ ใจกลางของเกาะฮอกไกโดและเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดที่คุณควรไปสัมผัสในช่วงฤดูร้อน คุณสามารถขับรถไปตามถนนโรลเลอร์โคสเตอร์ (Roller Coaster Road) ที่มีลักษณะขึ้นลงสลับกันไปตามความยาว 2.5 กม. พร้อมชมหุบเขาอันเขียวชอุ่มตามรายทาง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินทางไปตามเส้นทางมิยาม่า (Miyama Pass) เพื่อชมวิวอันน่าตื่นตาตื่นใจของเทือกเขาโทคาจิ

อย่างไรก็ดี ไฮไลต์ช่วงหน้าร้อนของฮอกไกโดนั้นคือทุ่งลาเวนเดอร์ที่ทอดตัวยาวไปตามเนินเขาต่าง ๆ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดก็คือฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ที่มีทุ่งลาเวนเดอร์ขนาดใหญ่ถึงห้าเฮกตาร์ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมายังสถานที่แห่งนี้คือตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้ผลิบาน นอกจากนี้ ยังมีดอกไม้อื่น ๆ ช่วยแต่งแต้มสีสันให้งดงามด้วย ซึ่งรวมไปถึงดอกไฮยาซินธ์, วิโอลา, ไอซ์แลนด์ป็อปปี้, ลูพิน, ดาวเรือง และดอกอื่น ๆ อีกมากมาย ดอกไม้บางชนิดนั้นเป็นดอกไม้ตามฤดูกาล โดยที่ดอกไม้ฤดูใบไม้ร่วงจะบานต่ออย่างไม่ขาดสายหลังจากที่ดอกไม้ฤดูใบไม้ผลินั้นร่วงโรยไป

ท่าอากาศยานอาซาฮิคาวะคือท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้คามิฟุราโนะที่สุด หลังจากที่เดินทางมาถึงแล้ว ให้นั่งรถโดยสารต่อไปยังสถานี Nakafurano Station คุณสามารถเดินเท้าเพื่อไปยังสวนดอกลาเวนเดอร์ต่าง ๆ ได้ เช่น Choei Lavender Park (10 นาที) และ Farm Tomita (20 นาที) 

ชมมหัศจรรย์ทางธรรมชาติแห่งฮอกไกโดได้แล้ววันนี้

ฮอกไกโดมีบางสิ่งบางอย่างให้ทุกคนเสมอ คุณจะพบว่าเกาะทางตอนเหนือของญี่ปุ่นแห่งนี้มีมากมายหลายสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชื่นชอบธรรมชาติที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพสวย ๆ, ผู้ชอบความตื่นเต้นที่มองหาการผจญภัยบนเนินเล่นสกีบนภูเขาของฮอกไกโด หรือเป็นผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมที่ต้องการสำรวจมรดกของฮอกไกโดก็ตาม

สำรวจโลกภายนอกอันยอดเยี่ยมของฮอกไกโดกันได้แล้ว!

สำรวจ ฮอกไกโด

ค้นพบกิจกรรมมากมายใน ฮอกไกโด

ปลุกวิญญาณของคุณให้ตื่นได้ในทริปวันหยุดพักผ่อนที่ฮอกไกโด
การรักษาสุขภาพ

ปลุกวิญญาณของคุณให้ตื่นได้ในทริปวันหยุดพักผ่อนที่ฮอกไกโด

สำรวจแหล่งน้ำพุธรรมชาติจากภูเขา, บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวงดงามมากมายเมื่อคุณมาเยือนฮอกไกโดซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาวะในฝันของใครหลาย ๆ คน

อาหารที่ต้องทานของญี่ปุ่นตอนเหนือ
อาหาร

อาหารที่ต้องทานของญี่ปุ่นตอนเหนือ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนครั้งแรกแล้วถามว่า “เมนูเด็ดสุดของฮอกไกโดนั้นคืออะไร” หรือ “อาหารอะไรคือเมนูขึ้นชื่อของซัปโปโร” ต่อไปนี้คือรายชื่อเมนูห้ามพลาดต่าง ๆ ของญี่ปุ่นทางตอนเหนือแห่งนี้

อุทยานและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดต่าง ๆ ของฮอกไกโด
ธรรมชาติและสวนสาธารณะ

อุทยานและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่งดงามที่สุดต่าง ๆ ของฮอกไกโด

อุทยานแห่งชาติชิเรโตโกะ (Shiretoko National Park) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮอกไกโด สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่งดงามที่สุด

ไปยังที่แห่งนั้น