10 โรงหมักสาเกโบราณในทางตอนเหนือของเกียวโตที่คุณต้องไปเยือน
พื้นที่ติดทะเลของเกียวโตที่ทอดตัวอยู่ตามแนวทางตอนเหนือของญี่ปุ่นนั้นคือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโรงหมักสาเกโบราณนับไม่ถ้วน
สวนญี่ปุ่นแบบเซนหรือสวนหินนั้นคือองค์ประกอบที่ลงตัวสำหรับพื้นที่การทำสมาธิอันเงียบสงบที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งสวนดังกล่าวได้รับการออกแบบไว้โดยนักบวชของศาสนาพุทธนิกายเซนในช่วงศตวรรษที่หก เพื่อเอาไว้ทำสมาธิโดยเฉพาะและหลังจากนั้นก็ใช้เป็นศูนย์การเผยแผ่ศาสนาของนิกายเซน “เซนนั้นคือศาสนารึเปล่า” นั่นอาจเป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจคุณ คำตอบก็คือ “ใช่” เนื่องจากเซนนั้นเป็นคำเรียกแบบย่อของพุทธศาสนานิกายเซน
สวนญี่ปุ่นแบบเซนถูกสร้างขึ้นโดยวัดนิกายเซนของเกียวโตในยุคมูโรมาจิ (Muromachi Period) ในช่วงปี ค.ศ. 1338-1573 ทุกวันนี้ พื้นที่อันน่าศรัทธาเหล่านี้คือผลงานชิ้นเอกด้านโครงสร้างที่ประกอบไปด้วยหินแห้ง ๆ และพื้นกรวด ค้นพบความสงบได้ที่สวนเหล่านี้ที่ซึ่งเป็นฉากที่ได้รับการจัดวางอย่างพิถีพิถันของหินและทรายที่ถูกคราดไว้ สวนเหล่านี้ยังมีองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างพุ่มไม้เตี้ย ๆ ตัดแต่ง, ต้นไม้ที่ถูกเล็มใบออก และแหล่งน้ำที่งดงาม ตกแต่งไว้ด้วย
หากคุณไม่รู้จะทำอะไรในเกียวโตและอยากหาทางคลายความเครียดพร้อมฝึกสมาธิแล้วล่ะก็ ทำไมไม่ลองมาสัมผัสประสบการณ์แบบวิถีเซนในเกียวโตดูล่ะ เกียวโตนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นเมืองที่มีแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกถึง 17 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นวัดและศาลเจ้าต่าง ๆ เราได้รวบรวมวัดนิกายเซนที่มีสวนดังกล่าวที่ดีที่สุดสามแห่งในเกียวโตพร้อมกับสถานที่ทางประวัติศาสตร์อื่น ๆ มาไว้ให้คุณแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถค้นหาวิธีเดินทางไปยังวัดนิกายเซนเหล่านี้ได้ที่นี่ด้วย
วัดนิกายเซนที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต: วัดเคนนินจิ (Kennin-ji)
วัดนิกายเซนอันบริสุทธิ์ผุดผ่องแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของย่านกิออนเกอิชา (Gion Geisha) บนถนนถนนฮานามิโคจิ (Hanamkoji Street) วัดแห่งนี้อยู่ห่างจากวัดคิโยมิซุเดระ (Kiyomizu-dera) ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกอีกแห่งหนึ่งประมาณ 15 นาที อย่างไรก็ดี การเดินทางจากวัดดังกล่าวเพื่อมายังวัดเคนนินจินี้อาจกินเวลาได้ถึงหนึ่งชั่วโมงเนื่องจากคุณจะต้องแวะชมสิ่งต่าง ๆ ตามรายทางอย่างแน่นอน มีผู้คนมากมายหลั่งไหลมายังวัดเคนนินจิ ซึ่งรวมไปถึงนักบวชพุทธศาสนาที่มาแสวงบุญ, กลุ่มนักท่องเที่ยว และคนในพื้นที่ที่มีความเชื่อด้านจิตวิญญาณ
วัดเคนนินจินั้นเป็นหนึ่งในวัดหลักของนิกายรินไซ (Rinzai Sect) ของพุทธศาสนาแบบญี่ปุ่น วัดแห่งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของเกียวโตโกะซัง (Kyoto Gozan) ซึ่งประกอบไปด้วยวัดนิกายเซนที่มีชื่อเสียงที่สุดห้าแห่งในเกียวโต วัดนั้นก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1202 และได้รับทุนสนับสนุนในการก่อสร้างจากนักบวชพุทธศาสนาที่มีนามว่าโยไซ (Yosai) ผู้ซึ่งได้เรียนรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนานิกายเซนขณะที่จาริกไปยังประเทศจีน
ยิ่งไปกว่านั้น โยไซยังเป็นผู้นำการดื่มชามาสู่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ท่านได้บำเพ็ญเพียรทางศาสนาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเณร จากนั้นท่านก็ได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับศาสนาพุทธนิกายเทนไดที่วัดหลักของนิกายบนภูเขาเฮอิ (Mount Hiei) ซึ่งภูเขาเฮอินั้นตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) กับเกียวโต
วัดนั้นประกอบไปด้วยโถงและประตูขนาดใหญ่มากมาย พร้อมกับมีอาคารที่มีขนาดรองลงมา 24 หลังรายล้อมอยู่ บริเวณในวัดนั้นยังมีการจัดแสดงของสวนแบบเซนต่าง ๆ ที่ประดับประดาไปด้วยมอสและกรวดที่ถูกคราดไว้อย่างงดงาม สวนหินต่าง ๆ นั้นประดับประดาไปด้วยทรายสีขาวที่มีเส้นเป็นลายคลื่นอยู่ เส้นเหล่านี้สื่อถึงมหาสมุทร ซึ่งโดยใจความสำคัญแล้ว สวนเหล่านี้สื่อถึงมหาสมุทรที่มีเกาะต่าง ๆ ตั้งอยู่
ประตูบานเลื่อนด้านในของวัดประดับประดาไปด้วยภาพวาดมังกร เพดานของศาลาธรรม (Dharma Hall) นั้นมีภาพมังกรสองตัวที่น่าตื่นตาตื่นใจอวดโฉมอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น วัดยังมีฉากกั้นห้องซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะของทาวารายะ โซทัตสึ (Tawaraya Sotatsu) ที่เป็นภาพสายลมกับเทพเจ้าสายฟ้า
วัดเคนนินจินั้นตั้งอยู่ในย่านกิออนใกล้ ๆ ปลายถนนฮานามิโคจิฝั่งทิศใต้ คุณสามารถนั่งรถไฟจากสถานี Kyoto Station เพื่อไปยังสถานี Gion Shijo Station ด้วยรถไฟสาย Keihan Line ซึ่งใช้เวลาเดินทาง 16 นาที จากนั้นก็ให้เดินต่ออีกสองสามนาทีจนถึงวัด หรือเดินทางจากสถานี Kyoto Station ไปยังสถานี Kawaramachi Station ด้วยรถไฟสาย Hankyu Line จากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 10 นาทีจนถึงวัด
สวนอันวิจิตรที่วัดชิเซนโด (Shisen-do)
วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในฮิกาชิยามะตอนเหนือ (Northern Higashiyama) วัดนั้นตั้งอยู่นอกเส้นทางหลักซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้คนที่ต้องการหลบเลี่ยงฝูงนักท่องเที่ยวใหญ่ ๆ ชื่อของวัดนั้นหมายถึง “สถานที่พักจิตพักใจของดาบส” วัดนั้นมีสวนกรวดแห้งแบบเซนที่จะประดับประดาไปด้วยดอกอาซาเลียอันงดงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนนั้นจะเต็มไปด้วยต้นเมเปิลในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
Jozan Ishikawa ก่อสร้างวัดเซนแห่งนี้ในเกียวโตเมื่อปี ค.ศ. 1671 ขณะที่มีอายุ 59 ปี เขาเป็นนักภูมิสถาปัตย์จากตระกูลซามูไร เขาได้ศึกษาวรรณกรรมคลาสสิกของจีนในสมัยเอโดะ เขาสร้างวัดแห่งนี้เพื่อใช้เป็นที่ผ่อนยามเกษียณของเขา ทางเข้าของวัดประดับตกแต่งด้วยกำแพงไม้ไผ่ที่ช่วยเสริมความงดงามให้กับใบไม้รอบข้าง คุณสามารถเข้าไปยังสวนและอาคารหลักได้ผ่านทางขั้นบันไดหิน ขั้นบันไดหินยังมีรั้วไม้ไผ่เรียงรายอยู่ด้านข้างด้วย
สวนแบบเซนของวัดประกอบไปด้วยสะพานหิน คุณสามารถฟังเสียงโซซู (Sozu) ซึ่งเป็นเสียงอันโดดเด่นจากกระบอกไม้ไผ่ได้ที่นี่ หรือชมภาพของสวนจากห้องแยกต่างหากที่ปูพื้นด้วยเสื่อทาทามิ คุณจะได้พบสวนเซนแบบแห้งได้ที่นี่ด้วย
สวนเน้นการตกแต่งด้วยต้นไม้ตัดแต่งเล็ก ๆ หรือคาริโคมิ (Karikomi) เป็นหลัก และยังมีเนินเขาที่งดงามอยู่ข้าง ๆ กับต้นไม้เหล่านั้นด้วย วัดนั้นยังมีชื่อเสียงในด้านภาพเขียนบุคคลบนผนังของกวีชาวจีนและญี่ปุ่นท่านต่าง ๆ คุณยังจะได้พบกับครัวญี่ปุ่นแบบโบราณที่เรียกกันว่าโคมาโดะ (Kamado) ได้ที่นี่ด้วย
วัดชิเซนโดอยู่ห่างจากสถานี JR Kyoto Station ประมาณ 38 นาที ซึ่งคุณจะต้องเดินทางไปยังป้าย Ichijoji-Sagarimatsu-cho ด้วยการโดยสารรถประจำทาง Kyoto City Bus No. 5 จากนั้นก็เดินต่ออีก 10 นาทีเพื่อไปยังวัด
แหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโก: วัดเรียวอันจิ
วัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji) ของนิกายเซนในเกียวโตนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของสวนหินแบบเซน วัดได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกขององค์การยูเนสโกที่โด่งดังที่สุดในเกียวโตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 ในสมัยเฮอัง (Heian Period) วัดแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นที่พักตากอากาศของขุนนาง ตระกูลฟูจิวาระ (Fujiwara) ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในสมัยดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าของที่พักตากอากาศดังกล่าว ต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ได้รับการแปลงโฉมให้เป็นวัดนิกายเซนโดยแม่ทัพระดับสูงที่มีนามว่าโฮโซกาวะ คัตสึโมโตะ (Hosokawa Katsumoto) ในปี ค.ศ. 1450
สวนเซนประกอบไปด้วยก้อนหิน 15 ก้อนที่เรียงรายอยู่บนผืนทรายสีขาวอันยาวเหยียด สวนนั้นมีขนาด 248 ตารางเมตร ซึ่งได้รับการตีความได้ในหลาย ๆ ทาง โดยมีทฤษฎีหนึ่งนั้นกล่าวว่าก้อนหินต่าง ๆ ที่เห็นนั้นคือการสะกดคำว่า “หัวใจ” ด้วยตัวอักษรจีน อีกทฤษฎีหนึ่งนั้นกล่าวว่าก้อนหินต่าง ๆ สื่อให้เห็นเสือตัวเมียที่กำลังคาบลูก ๆ ของมันข้ามผืนน้ำอยู่
ที่ด้านหลังของสวนเซนมีอ่างล้างหน้าสึกุไบ (Tsukabai) ศักดิ์สิทธิ์อยู่ แขกที่มาวัดมักใช้อ่างน้ำเหล่านี้เพื่อล้างมือล้างปากก่อนที่จะเข้าไปยังโรงน้ำชา อย่างไรก็ตาม อ่างล้างหน้าเป็นเพียงแค่อ่างจำลองของหนึ่งในอ่างล้างหน้าที่โรงน้ำชาโซโรคุ-อัง (Zoroku-an) เท่านั้น
นอกจากนี้ วัดยังมีสวนเดินเล่นขนาดใหญ่และสระน้ำโอชิโดริ (Oshidori Pond) สระน้ำแห่งนี้คือส่วนที่ยังคงเหลืออยู่ของที่พักตากอากาศของขุนนางซึ่งเป็นเจ้าของเก่าของสถานที่แห่งนี้ วัดเรียวอันจิยังเป็นที่ตั้งสุสานอิมพีเรียลเจ็ดพระองค์ (Seven Imperial Tombs) ซึ่งเป็นสุสานของสมาชิกราชวงศ์จักรพรรดิเจ็ดพระองค์ ซึ่งรวมถึงเจ้าหญิงเทอิชิ (Princess Teishi)
จากสถานี Kyoto Station ให้ขึ้นรถประจำทาง Kyoto City Bus No. 50 ตรงท่ารถ B2 ซึ่งมุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยริทสุเมอิกัน (Ritsumeikan University) หลังจากนั่งรถไป 30 นาที ให้ลงจากรถที่ป้าย Ryoanji-mae ที่อยู่ตรงด้านหน้าวัด
วิธีการเดินทางไปที่ต่าง ๆ ในเมืองเกียวโต
ท่าอากาศยานที่ใกล้เกียวโตที่สุดคือท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport, KIX) ในโอซาก้า คุณสามารถบินไปยัง KIX แล้วใช้ระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่เพื่อไปยังวัดเซนได้ตามต้องการ วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางจาก KIX ไปยัง Kyoto station นั้นคือทางรถไฟ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.25 ชั่วโมง คุณสามารถเดินทางด้วย Tokaido Shinkansen ที่วิ่งระหว่างเมืองโอซาก้า, โตเกียว และเกียวโต ซึ่งมีให้บริการทุก ๆ ไม่กี่นาที
หากคุณเดินทางมาจากโตเกียว คุณสามารถเดินทางด้วยรถไฟหัวกระสุน Shinkansen Hikari จากสถานี Shinagawa Station ตรงกลางเมืองโตเกียวหรือจากสถานี Tokyo Station เพื่อไปยังสถานี Kyoto Station ได้โดยตรง นักท่องเที่ยวต่างชาติยังสามารถใช้ Japan Rail Pass ที่มีราคาย่อมเยาเพื่อเดินทางระหว่างเมืองได้อย่างไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้ คุณยังสามารถบินไปลงท่าอากาศยานนาริตะหรือฮาเนดะในโตเกียวแล้วก็ใช้ระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่เพื่อไปยังวัดต่าง ๆ ได้ด้วย นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้ JAL Japan Explorer Pass เพื่อบินระหว่างเมือง 30 แห่งที่อยู่ในเครือข่ายภายในประเทศของ JAL สิ่งนี้ช่วยให้คุณบินและสำรวจมรดกทางวัฒนธรรมอันรุ่มรวยของญี่ปุ่นและชีวิตของคนท้องถิ่นได้ด้วยค่าโดยสารราคาพิเศษ
สัมผัสประสบการณ์วิถีเซนในเกียวโต
ไม่ว่าคุณจะต้องการสำรวจโบราณสถานหรือมหานครอันทันสมัยก็ตาม ทริปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นคือการผจญภัยทางวัฒนธรรมที่คุณไม่ควรพลาด เราช่วยคุณวางแผนทริปไปเกียวโตที่ควรค่าต่อการจดจำได้ด้วยเคล็ดลับจากคู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่นของเรา ไม่จำเป็นต้องคาดเดาหรือค้นหาค่าโดยสารราคาประหยัดให้วุ่นจนหัวปั่นอีกต่อไปด้วย JAL Japan Explorer Pass
พบกับสิทธิประโยชน์มากมายในการเดินทางไปกับ JAL Japan Explorer Pass เมื่อคุณจองวันนี้
พื้นที่ติดทะเลของเกียวโตที่ทอดตัวอยู่ตามแนวทางตอนเหนือของญี่ปุ่นนั้นคือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโรงหมักสาเกโบราณนับไม่ถ้วน
ออกไปเยือนเกียวโตเพื่อสำรวจรีสอร์ทออนเซ็น (น้ำพุร้อน) เรียวกัง และจุดหมายปลายทางเพื่อสุขภาวะที่ช่วยเยียวยาร่างกายอันสวยงามและผ่อนคลายอื่น ๆ อีกมากมาย
ป่าไผ่อาราชิยามะ (Arashiyama Park) ที่ตั้งอยู่ในย่านซากาโนะ (Sagano District) ที่มีชื่อเสียงตามขอบชานเมืองฝั่งตะวันตกของเกียวโตนั้นมีสิ่งต่าง ๆ มากกว่าแค่การสำรวจป่าไผ่ให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ
แบ่งปัน
แบ่งปัน