|
วางแผนทริปของคุณ

ทุกสิ่งที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับการใช้เงินในญี่ปุ่น

เคล็ดลับเด็ด ๆ จาก JAL ในการใช้เงินอย่างชาญฉลาดในญี่ปุ่น เพื่อให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าจดจำได้ในงบประมาณที่ตั้งไว้
ทุกสิ่งที่คุณต้องทราบเกี่ยวกับการใช้เงินในญี่ปุ่น

ดัชนี

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้นต้องใช้เงินมากแค่ไหน

สิ่งที่คุณควรทราบ

วิธีการเที่ยวในญี่ปุ่นที่ช่วยให้ประหยัดได้ยิ่งขึ้น

สถานที่รับเงินสดในญี่ปุ่น

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นนั้นต้องใช้เงินมากแค่ไหน

คุณอาจพบกับข้อเสนอที่ไม่แพงต่าง ๆ ได้ในญี่ปุ่นตั้งแต่การช็อปปิ้งไปจนถึงอาหารอร่อย ๆ แต่การท่องเที่ยวญี่ปุ่นในบางด้านนั้นมีราคาแพงกว่าในประเทศตะวันตกหลายแห่งซึ่งรวมไปถึงสหรัฐฯ เองด้วย แต่ถ้าคุณมีข้อมูลกับความรู้พื้นฐานอยู่บ้างแล้ว คุณก็จะสามารถเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้ในงบประมาณแทบทุกระดับ 

ราคาที่พักในญี่ปุ่น

การหาที่พักที่มีราคาต่ำกว่า $100 นั้นเป็นไปได้ แม้จะเป็นตามเมืองใหญ่ ๆ ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ที่พักดังกล่าวอาจเป็นห้องขนาดเล็ก และที่พักบางแห่งตามชนบทนั้นอาจต้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน

โรงแรมระดับกลางถึงสูงรวมไปถึงรีสอร์ทนั้นมักมีราคาอยู่ที่ $200 ถึง $700 ต่อคืน และโปรแกรมลอยัลตีของทางโรงแรมก็จะช่วยให้คุณได้ราคาที่พักในระดับพอ ๆ กันเมื่อคุณเข้าพักตามโรงแรมในเครือในเมืองใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น หากคุณสามารถท่องเที่ยวในออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ หรือยุโรปได้ คุณก็สามารถท่องเที่ยวในญี่ปุ่นได้เช่นกัน 

ทั้งนี้ หากคุณทำการจองห้องพักกับทางโรงแรมในญี่ปุ่นโดยตรง โปรดทราบว่าโรงแรมเหล่านั้นมักคิดค่าบริการเป็นราคาต่อท่าน ไม่ใช่ราคาต่อห้อง 

ค่าอาหารในญี่ปุ่น

คุณสามารถหาอาหารราคาไม่แพงได้ทั่วญี่ปุ่น คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายทิปเมื่อรับประทานอาหารในร้านอาหารที่ญี่ปุ่น ดังนั้น มื้ออาหารในสหรัฐฯ ที่อาจมีราคา $15 เมื่อรวมทิปแล้วนั้นอาจมีราคาอยู่ที่ประมาณ $10 ถึง $12 ในญี่ปุ่น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีภัตตาคารที่ให้บริการการรับประทานอาหารแบบหรูหราอีกหลายแห่ง ซึ่งอาจมีราคาอยู่ที่ $100 ต่อท่าน หรือมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารแบบหรูหราตามเมืองที่มีชื่อเสียงด้านอาหารทั่วโลกนั้นก็จะมีราคาเริ่มต้นที่ $100 ต่อท่านอยู่แล้ว 

ค่าเดินทางในญี่ปุ่น

ค่าเดินทางในญี่ปุ่น

ค่าเดินทางในญี่ปุ่นนั้นอาจเป็นหนึ่งส่วนของการท่องเที่ยวที่มีราคาสูงได้ นักท่องเที่ยวมักใช้จ่ายเงินไปกับระบบขนส่งมวลชนอย่างรถไฟหรือรถโดยสารประจำทางอยู่ประมาณ 2,000 - 8,000 เยน (ค่าสกุลเงินของญี่ปุ่น) ต่อสัปดาห์ บัตรโดยสารรถไฟหัวกระสุนจากโตเกียวไปยังเกียวโตมีราคาประมาณ 8,000 เยน (ประมาณ $70) และมีราคาเพิ่มอีก 5,800 เยน หากคุณต้องการสำรองที่นั่ง (ประมาณ $50)

การขับรถยนต์ในญี่ปุ่นอาจเป็นตัวเลือกการเดินทางที่มีราคาแพง เนื่องจากถนนไฮเวย์แทบทุกแห่งนั้นจะมีการเรียกเก็บค่าผ่านทาง ตัวอย่างเช่น ค่าผ่านทางด่วนในเขตเมืองของโตเกียวช่วง 6.00 - 22.00 น. นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 เยน ส่วนค่าผ่านทางไฮเวย์ทั่วไปในส่วนอื่น ๆ ของญี่ปุ่นนั้นมีราคาอยู่ที่ 300 - 1,320 เยน นอกจากนี้ คุณยังอาจต้องเผื่อค่าน้ำมันและค่าที่จอดรถซึ่งอาจมีราคาสูงกว่าไว้ด้วย

สิ่งที่คุณควรทราบ

ญี่ปุ่นใช้วิธีการชำระเงินแบบใดบ้าง

เงินสดนั้นยังคงเป็นช่องทางการชำระเงินหลัก ถึงแม้ว่าการระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการใช้การชำระเงินแบบดิจิทัลและไร้สัมผัสก็ตาม คุณสามารถใช้บัตรเครดิตส่วนใหญ่ซื้อของและบริการตามร้านค้าและร้านอาหารใหญ่ ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าศาลเจ้าและสถานที่อื่น ๆ ตามชนบทอาจรับแต่เงินสดเท่านั้น

ใช้บัตร IC เพื่อชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายในญี่ปุ่น

ใช้บัตร IC เพื่อชำระเงินได้อย่างสะดวกสบายในญี่ปุ่น

"สมาร์ทการ์ด" แบบเติมเงินได้หรือบัตร IC คือวิธีที่สะดวกที่สุดในการชำระค่าโดยสารรถไฟ รถโดยสาร และโมโนเรลในญี่ปุ่น นอกจากนี้ เครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารในเครือต่าง ๆ ยังรับบัตร IC ด้วย บัตร IC ที่ผู้คนนิยมใช้สองยี่ห้อนั้นได้แก่ Suica Card กับ PASMO Suica กับ PASMO มีแอป Apple Wallet ที่สามารถใช้งานกับ iPhone หรือ Apple Watch ได้ และยังสามารถเติมเงินได้ผ่าน Apple Pay หรือ Apple Wallet โดยไม่มีการบังคับจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องใช้เติม เมื่อซื้อบัตร Suica แบบบัตรพลาสติก จะมีการเก็บเงิน 500 เยน (ประมาณ $5) เป็นค่าแรกเข้า แม้ว่าบัตร PASMO จะไม่ได้ออกให้โดย Japan Rail แต่คุณก็สามารถใช้บัตรดังกล่าวกับสถานีต่าง ๆ ของเจแปนเรลได้ บัตร IC ที่มีให้บริการในภูมิภาคอื่น ๆ ได้แก่ ICOCA ในโอซาก้า และ Kitaka ในฮอกไกโด โปรดดูคำแนะนำตัวเลือกด้านการเดินทางเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร IC

สามารถชำระเงินในญี่ปุ่นด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้หรือไม่

สามารถชำระเงินในญี่ปุ่นด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้หรือไม่

โควิด-19 กลายเป็นตัวเร่งสำหรับการชำระเงินด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ในญี่ปุ่น ตัวเลือกการชำระเงินด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นมีใช้ทั่วญี่ปุ่นกันแล้ว ด้วยเหตุนี้คุณจึงสามารถใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่กับเครื่องรับการชำระเงินแบบ NFC หรือด้วยใช้การสแกนคิวอาร์โค้ดได้ Apple Pay กับ Google Wallet คือตัวอย่างของแอปการชำระเงินด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งใช้อยู่ในญี่ปุ่นด้วยเทคโนโลยี NFC การชำระเงินด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านคิวอาร์โค้ดซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Alipay และ WeChat Pay

วิธีการเที่ยวในญี่ปุ่นที่ช่วยให้ประหยัดได้ยิ่งขึ้น

แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีราคาแพง แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะได้รับส่วนลดมากมาย

ประหยัดเงินด้วยการช็อปปิ้งแบบปลอดภาษีในญี่ปุ่น

ประหยัดเงินด้วยการช็อปปิ้งแบบปลอดภาษีในญี่ปุ่น

ให้มองหาสัญลักษณ์ร้านค้าปลอดภาษีของญี่ปุ่นในร้านค้าที่เสนอการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 8% ของญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ให้แสดงหนังสือเดินทางของคุณตามร้านค้าเหล่านี้เพื่อช็อปปิ้งได้แบบไร้ภาษี คุณสามารถได้รับการยกเว้นภาษีด้วยการหักภาษีออกก่อนการชำระเงิน หรือได้รับเงินคืนหลังจากการชำระเงิน 

บัตรโดยสารรถไฟลดราคาในญี่ปุ่น

เจแปนเรลพาสที่มีให้บริการสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางต่างชาตินั้นสามารถช่วยให้คุณขึ้นรถไฟหัวกระสุนและเดินทางได้อย่างง่ายดาย เจแปนเรลพาสแบบ 7 วันมีราคาราว 50,000 เยน สำหรับที่นั่งแบบไม่สำรองที่นั่งสำหรับผู้ใหญ่ บัตรดังกล่าวยังมีให้เลือกในแบบ 14 วันและ 21 วันอีกด้วย 

บัตรโดยสารเครื่องบินลดราคาในญี่ปุ่น

คุณสามารถโดยสารเครื่องบินทั่วญี่ปุ่นได้อย่างประหยัดและง่ายดายโดยใช้บัตรเจแปนเอกซ์พลอเรอร์พาสของ JAL ซึ่งมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ $70 สำหรับค่าโดยสารไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วญี่ปุ่นแบบเที่ยวเดียว ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณใช้บัตรเจแปนเอกซ์พลอเรอร์พาสของ JAL อยู่ด้วยแล้ว คุณยังสามารถที่จะเลือกอัปเกรดเป็นที่นั่งแบบชั้นประหยัดพรีเมียมได้ด้วยค่าธรรมเนียมเล็กน้อยเพียง 1,000 เยนระหว่างที่ทำการเช็คอิน 

สถานที่รับเงินสดในญี่ปุ่น

สถานที่รับเงินสดในญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือไม่

คุณสามารถแลกเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินเยนของญี่ปุ่นได้ที่สนามบินเมื่อคุณเดินทางมาถึงญี่ปุ่น หรือคุณสามารถใช้บัตรธนาคาร (บัตรเดบิต) ของคุณเพื่อถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มก็ได้ คุณจะพบว่าตู้เอทีเอ็มบางตู้นั้นรับบัตรธนาคารต่างประเทศได้ ให้มองหาตู้เอทีเอ็มที่แสดงสัญลักษณ์เครือข่ายบัตรธนาคารของคุณ เช่น VISA, JCB หรือ MasterCard ตู้เอทีเอ็มส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นจำกัดวงเงินการถอนเงินอยู่ที่ 100,000 เยน คุณอาจถูกจำกัดการถอนเงินแต่ละครั้งด้วยวงเงิน 30,000 เยนสำหรับบัตรเครดิตประเภทต่าง ๆ

การแลกเงินที่ญี่ปุ่นนั้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหรือเปล่า

การหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่คุณถืออยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณเดินทางมาจากสหรัฐฯ คุณควรมาแลกเงินดอลลาร์เป็นเงินเยนที่ญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม คุณจะได้อัตราการเปลี่ยนสกุลเงินเยนที่ดีที่สุดตามประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่ในญี่ปุ่น 

ที่ไหนบ้างในญี่ปุ่นที่จะมีตู้เอทีเอ็ม

ที่ไหนบ้างในญี่ปุ่นที่จะมีตู้เอทีเอ็ม

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับของคนวงใน: คุณจะพบว่าตู้เอทีเอ็มตามร้านสะดวกซื้ออย่าง Family Mart, Lawson และ 7-Eleven (ร้านสะดวกซื้อแบบเดียวกันกับในสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ) นั้นสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายและรับบัตรธนาคารต่างประเทศแทบทุกแบบ ในญี่ปุ่นมีร้าน Lawson กว่า 13,000 แห่ง, Family Mart กว่า 16,000 แห่ง และ 7-Eleven กว่า 21,200 แห่ง ดังนั้น คุณจึงจะได้เจอร้านสะดวกซื้อเหล่านี้ที่มีตู้เอทีเอ็มตลอดการท่องเที่ยวของคุณ ตู้เอทีเอ็มตามร้านสะดวกซื้อรับบัตรธนาคารต่างประเทศแทบทุกประเภท และมีคำแนะนำการใช้งานแสดงเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาจีน คุณสามารถใช้ตู้เอทีเอ็มเหล่าสนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน 7-Bank หรือตู้เอทีเอ็มของ 7-Eleven นั้นสามารถใช้งานได้แบบไม่มีค่าธรรมเนียมในญี่ปุ่น 

ยิ่งไปว่านั้น ตู้เอทีเอ็มของไปรษณีย์ยังรับบัตรธนาคารต่างประเทศแทบทุกประเภท แต่คุณจะสามารถใช้บริการตู้เอทีเอ็มประเภทนี้ได้ระหว่างช่วงเวลาทำการของที่ทำการไปรษณีย์เท่านั้น ตู้เอทีเอ็มของไปรษณีย์ญี่ปุ่นคิดค่าธรรมเนียม 105 เยนในวันปกติ และจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในวันหยุดนักขัตฤกษ์และช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ทั้งนี้ โปรดทราบว่าอาจมีการคิดค่าธรรมเนียมการใช้บัตรธนาคารของคุณกับตู้เอทีเอ็มของญี่ปุ่น

วิธีการเดินทาง