คู่มือนำเที่ยวของคุณสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่ดีที่สุดต่าง ๆ ของโตเกียว

ญี่ปุ่นยุคโบราณ (Old Japan)

ญี่ปุ่นยุคโบราณอาจเรียกว่าญี่ปุ่นยุคดั้งเดิมหรือญี่ปุ่นยุคเก่าก็ได้ ยุคสมัยต่าง ๆ ของญี่ปุ่นยุคโบราณนั้นได้แก่ยุคโคฟุน (Kofun), อาสึกะ (Asuka), นาระ (Nara), เฮอัง (Heian), คามากุระ (Kamakura) และการฟื้นฟูยุคเมจิ (Meiji Restoration Periods) ซึ่งยุคสมัยเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นยุคศตวรรษที่ 20 ที่ซึ่งคุณสามารถเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ได้ด้วยจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าทางประศาสตร์ต่อไปนี้

พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) 

พระราชวังอิมพีเรียลตั้งอยู่ ณ ใจกลางของกรุงโตเกียวอันจอแจและเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่นยุคโบราณ ราชอาณาเขตแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งดั้งเดิมของปราสาท (Edo Castle) และเป็นพระตำหนักปัจจุบันของราชวงศ์ญี่ปุ่น พระราชวังญี่ปุ่นยุคโบราณแห่งนี้ได้รับการสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1457 ซึ่งประกอบไปด้วยโครงสร้างอาคารสีขาวและหลังคาแบบลาดเอียง

พระราชวังอิมพีเรียลของญี่ปุ่นประดับประดาไปด้วยสวนสาธารณะใกล้ทางเข้าพระราชวังที่มีชื่อว่าสวนโคเคียวไกเอ็น (Kokyo Gaien) คุณยังสามารถชมวิวของสะพานนิจูบาชิ (Nijubashi) ที่ทอดไปสู่ทางเข้าของพระราชวังชั้นใน ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถชมความงดงามของฉากพระราชวังญี่ปุ่นแห่งนี้ได้ในยามค่ำคืนที่จะประดับประดาไปด้วยแสงไฟงดงาม

ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการไปเที่ยวพระราชวังอิมพีเรียลของโตเกียวนั้นคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ (ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน) พระราชวังนั้นมีคูน้ำตรงทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังอิมพีเรียลที่มีชื่อว่าคูน้ำชิโดริงะฟุชิ (Chidorigafuchi) ที่มีบริการเรือพายรับจ้างเอาไว้ให้คุณได้สำรวจคูน้ำรอบพระราชวัง ทั้งนี้ จะมีแสงไฟสาดส่องบริเวณโดยรอบพระราชวังในยามค่ำคืน ทำให้คุณสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของดอกซากุระบนผืนน้ำอันน่าหลงใหลในยามค่ำคืนได้  

บริเวณแห่งนี้ยังประกอบไปด้วยทางเดินที่เรียกกันว่าชิโดริงะฟุชิ เรียวคุโด (Chidorigafuchi Ryokudo) หากคุณวางแผนที่จะไปเยี่ยมชมทางเดินอันน่าทึ่งของพระราชวังญี่ปุ่นแห่งนี้ในช่วงฤดูร้อน พยายามหลีกเลี่ยงช่วงกลางวันเนื่องจากทางเดินนั้นค่อนข้างยาว ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีต้นดอกซากุระผลิบานเป็นแนวอยู่ตามคูน้ำและทางเดิน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นต้นซากุระโยชิโนะ (Yoshino)

โปรดทราบว่าพระราชวังชั้นในนั้นไม่ได้เปิดให้สาธารณชนเข้ารับชม ดังนั้น คุณควรจองทัวร์นำเที่ยวโดยมัคคุเทศก์เพื่อที่คุณจะสามารถเข้าเยี่ยมชมพระราชวังชั้นในได้ในบางวันที่มีการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมได้ อย่างไรก็ตาม คุณสามารถจองจองทัวร์นำเที่ยวโดยมัคคุเทศก์สำหรับพื้นที่โดยรอบของพระราชวังได้ตลอดทั้งปี

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวฮาเนดะแล้ว คุณสามารถเดินทางไปยังพระราชวังด้วยระบบขนส่งมวลชนของโตเกียวได้ ให้ขึ้นรถไฟโดยตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวฮาเนดะเพื่อไปยังสถานี JR Tokyo Station เมื่อคุณไปถึงสถานีดังกล่าว ให้เดินออกจากสถานีทาง Marunouchi Central Exit เดินไปทางทิศตะวันตกต่ออีกประมาณ 10 นาทีจนคุณเห็นพระราชวัง

วัดเซนโซจิ (Senso-ji Temple)

วัดเซนโซจิเป็นส่วนหนึ่งของสัญลักษณ์แห่งญี่ปุ่นยุคโบราณและตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศญี่ปุ่นในย่านประวัติศาสตร์อาซากุสะ (Asakusa) วัดดังกล่าวจัดเป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของโตเกียวซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 645 ซึ่งวัดนั้นเชื่อมโยงกับศาสนาพุทธนิกายเทนได (Tendai) วัดในย่านอาซากุสะของโตเกียวแห่งนี้ยังอยู่ติดกับศาลเจ้าอาซากุสะ (Asakusa Shrine) หากคุณมาโตเกียวด้วยระยะเวลาที่จำกัด อย่าลืมใส่วัดนี้ไว้ในรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดของคุณด้วย

คุณจะได้พบกับผู้แสวงบุญมากมายเมื่อมายังวัดเซนโซจิ รวมถึงร้านค้าขนาดเล็กมากมายรอบ ๆ ตัววัดด้วย คุณจะรู้สึกทึ่งไปกับสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาที่มีชื่อว่า “ประตูแห่งสายฟ้า (Thunder Gate)” ตรงทางเข้าของวัด สถาปัตยกรรมดังกล่าวมีรูปแบบเป็นโคมไฟยักษ์สีดำกับแดงที่เป็นสัญลักษณ์แทนพายุฝนฟ้าคะนอง

วัดยังประกอบไปด้วยโถงหลักและเจดีย์ห้าชั้น ซึ่งสร้างขึ้นไว้เพื่อสักการะเจ้าแม่กวนอิม (Kannon) ตามตำนานของพุทธศาสนา เจ้าแม่กวนอิมคือเทพธิดาแห่งความผาสุกกลมเกลียวของญี่ปุ่น บริเวณรอบ ๆ วัดนั้นเป็นธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาแบบดั้งเดิมที่ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่นั้นจะตกแต่งด้วยสไตล์ย้อนยุคแบบดั้งเดิม ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้นก็จะเป็นแบบดั้งเดิมเช่นกัน เนื่องจากร้านอาหารส่วนใหญ่แถวนั้นต่างให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ เตรียมท้องของคุณเอาไว้สำหรับซูชิ, บะหมี่ และเทมปุระกันได้เลย 

คุณยังสามารถซื้อของฝากติดไม้ติดมือได้ที่ถนนนากามิเสะ-โดะริ (Nakamise-Dori) ที่อยู่ใกล้ ๆ กับวัดด้วย ที่ซึ่งคุณสามารถหาซื้อของกินหายากอร่อย ๆ, ชุดกิโมโน, ของเล่นเด็ก, เสื้อยืด หรือของประดับตกแต่งสำหรับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตของคุณ

เมื่อคุณมาถึงโตเกียว ให้นั่งรถไฟไปยังสถานี JR Tokyo Station หลังจากนั้นให้คุณเดินทางไปยังสถานี Asakusa Station ด้วยรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza ให้เดินออกจากสถานีด้วยประตูทางออกหมายเลขหนึ่ง จากนั้นก็ให้เดินตรงต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะเห็นวัดอาซากุสะแห่งนี้

ญี่ปุ่นยุคใหม่ (Modern Japan)

สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบร่วมสมัยและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้ในจุดหมายปลายทางที่น่าจดจำเหล่านี้

Small Worlds, Tokyo

สวนสนุกโลกจำลองใบจิ๋วแห่งนี้ตั้งอยู่ในโอไดบะ (Odaiba) ซึ่งเป็นสถานที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะญี่ปุ่นยุคใหม่อีกแห่ง สถานที่แห่งนี้เปิดให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายน 2020 และประกอบไปด้วยสี่ชั้น สถานที่แห่งนี้มีลักษณะตรงข้ามกับชื่อของมันอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากประกอบไปด้วยพื้นที่อันกว้างกว่า 8,000 ตารางเมตร งานแสดงที่เป็นไฮไลท์ต่าง ๆ นั้นได้รับการจัดแสดงไว้ตรงชั้นสามของอาคาร

ที่ซึ่งคุณจะได้ตื่นตะลึงไปกับความงดงามของหุ่นจำลองขนาดจิ๋วต่าง ๆ ของสถาปัตยกรรมยุคใหม่, ชีวิตในเมือง, สถาปัตยกรรมโบราณอันงดงาม และสัตว์ในตำนานของญี่ปุ่น

คุณสามารถสำรวจบริเวณศูนย์อวกาศจำลองอันน่าพิศวงกับหมู่บ้านมหัศจรรย์ (Mysterious Miniature Space Center and a Fantastical Village) ที่ซึ่งเป็นการหล่อหลอมรวมกันของยุคสมัยที่แตกต่างกันของญี่ปุ่น ในบริเวณสถานีอวกาศ (Space Station) คุณจะได้รับชมการปล่อยจรวด Saturn V ที่เกิดขึ้นจริงในช่วงทศวรรษที่ 1970  

ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะยังได้ตื่นตาตื่นใจไปกับแบบจำลองของท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport) ที่มีเครื่องบินจำลองทะยานขึ้นและลงจอด ณ ท่าอากาศยานจำลองดังกล่าว รวมถึงเครื่องบินจำลองที่บินอยู่เหนืออ่าวโอซาก้า (Osaka Bay) ด้วย คุณจะได้เห็นแม้แต่หุ่นจำลองของผู้โดยสารที่รอรับกระเป๋าสัมภาระอยู่ตรงสายพาน และเพื่อทำให้ทุกสิ่งดูสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก ท่าอากาศยานของ Small Worlds แห่งนี้ยังมีห้องรับรองผู้โดยสารเพื่อเอาไว้ให้ผู้เดินทางได้พักจิบกาแฟอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีบริเวณสำหรับการ์ตูนอนิเมะชื่อดังต่าง ๆ อีกด้วย หากคุณอยากเห็นหุ่นรบอีวานเกเลียน (Evangelion) ตัวเป็น ๆ แล้วล่ะก็ สวนสนุกแห่งนี้คือสถานที่สำหรับคุณเนื่องจากมีเหล่าหุ่นรบฮีโร่ที่คุณชื่นชอบจัดแสดงไว้ในเวอร์ชันย่อขนาดอยู่ และยังมีหุ่นจำลองสวย ๆ เพื่อเป็นเกียรติให้กับเซเลอร์มูน (Sailor Moon) ด้วย

หากคุณต้องการไปยังสวนสนุกแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ตรงอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) คุณจะต้องเดินทางจากสถานี JR Tokyo Station เพื่อไปยังสถานี Ariake-Tennis-no-Mori Station ด้วยรถไฟสาย Yurikamome จากนั้นก็ให้เดินต่ออีกสองสามนาทีจากสถานีเพื่อไปยังสวนสนุก Small Worlds, Tokyo

สัมผัสความเป็นญี่ปุ่น

ในโตเกียวนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ให้คุณชมและทำมากมายหลายอย่างเกินกว่าที่จะรวมไว้ได้ในทริป ๆ เดียว ต่อไปนี้คือประสบการณ์และสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมต่าง ๆ ที่คุณควรเพิ่มเข้าไว้ในแผนการเดินทางถ้าคุณมีเวลาเหลือ

อาซากุสะ - แม่น้ำสุมิดะ (Asakusa - Sumida River) 

แม่น้ำสุมิดะตั้งอยู่ในเขตของโตเกียวที่มีชื่อว่าไตโตะ, อาซากุสะ (Taito, Asakusa) อาซากุสะนั้นยังเป็นเมืองหลวงของชิตามาจิ (Shitamachi)  ซึ่งแม่น้ำดังกล่าวนั้นมีชื่อเสียงดังต่อไปนี้

แสงพลุอันงดงามท่ามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืนของชิตามาจิ 

แม่น้ำสุมิดะนั้นเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River Fireworks Festival) ซึ่งเป็นงานอีเวนต์ที่คุณจะได้รับชมการแสดงดอกไม้ไฟถึง 22,000 ชุด ที่ซึ่งจะมีดอกไม้ไฟ 200 ชุดถูกใช้ในการแข่งขันของงานดังกล่าว เทศกาลนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดือนกรกฎาคม 

ล่องเรือรับประทานอาหารค่ำ

ท่องไปตามแม่น้ำแห่งนี้ได้ตลอดปีด้วยบริการล่องเรือของแม่น้ำสุมิดะ คุณสามารถจองการล่องเรือรับประทานอาหารค่ำกับ Yakatabune Cruises พร้อมอิ่มอร่อยไปกับเมนูแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ รวมถึงสาเก ประเภทของเรือที่ให้บริการนั้นมีชื่อเรียกว่า Yakatabune Amitatsu ซึ่งได้คิดค้นสร้างขึ้นมาเป็นเวลากว่าศตวรรษหนึ่งแล้ว เรือเหล่านี้มีชั้นดาดฟ้าชมวิวเพื่อเอาไว้ให้คุณได้รับชมความงดงามของเมืองในช่วงหลังมื้ออาหารค่ำ

The Tokyo Skytree

The Tokyo Skytree นั้นตั้งอยู่ริมฝั่งของแม่น้ำสุมิดะ มันได้รับการออกแบบขึ้นในปี 2012 โดยผู้เชี่ยวชาญ 100 คน The Tokyo Skytree นั้นทำหน้าที่เป็นทั้งหอชมวิวและศูนย์กระจายเสียงของโตเกียว ด้านในของ Skytree Japan นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบแบบเดียวกันที่พบได้ตามเจดีย์โบราณต่าง ๆ ทั้งนี้ หอคอยแห่งนี้สามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้  

หอคอยที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นแห่งนี้คือสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีความสูงถึง 634 เมตร รวมถึงยังเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ชั้นที่ต่ำลงมาอันกว้างขวางของหอคอยแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 350 เมตร ที่ซึ่งคุณจะได้พบกับร้านค้า, ร้านกาแฟ และร้านอาหารมากมาย คุณสามารถชมวิวพาโนรามาได้จากชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปที่ความสูง 450 เมตร ชั้นนี้มีทางลาดที่ทำจากเหล็กหล้ากับกระจก ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวพาโนรามาของคันโต (Kanto) ได้

คุณสามารถเดินทางไปยังบริเวณแม่น้ำแห่งนี้ได้ด้วยการนั่งรถไฟจากสถานี JR Tokyo Station ไปยังสถานี Asakusa Station จากนั้นคุณจะต้องเดินต่ออีกประมาณ 15 นาทีเพื่อไปยัง Tokyo Sky Tree นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินทางจากสถานี JR Station ไปยังสถานี Tokyo Skytree Station ด้วยรถไฟสาย Tobu Skytree Line หรือไปยังพื้นที่ดังกล่าวด้วยการเดินทางจากสถานี JR Tokyo Station ไปยังสถานี Oshiage Station ด้วยรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Hanzomon Line คุณยังสามารถเดินทางได้โดยตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียวฮาเนดะด้วยการโดยสารไปกับรถรับส่ง Skytree Shuttle ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปยัง Tokyo SkyTree

โตเกียวดิสนีย์แลนด์และดิสนีย์ซี (Tokyo Disneyland and DisneySea)

โตเกียวดิสนีย์แลนด์เป็นสวนสนุกของโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ท (Tokyo Disney Resort) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดชิบะ (Chiba Prefecture) ในโตเกียวของญี่ปุ่น สวนสนุกนั้นมีพื้นที่กว่า 115 เอเคอร์ ซึ่งสวนสนุกดังกล่าวนั้นเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่เปิดให้บริการนอกประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ที่ซึ่งมอบความสนุกสนานให้กับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก

สิ่งที่น่าสนใจหลัก ๆ ของที่แห่งนี้นั้นรวมไปถึงทัวร์รอบสถานที่ที่ให้บริการด้วยรถบัสสองชั้นแบบโบราณ คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับเกมอาเขดต่าง ๆ ได้ที่เพนนีอาเขด (Penny Arcade), นั่งรถไฟพลังไอน้ำ, ผจญภัยไปกับการล่องเรือ Pirates of the Caribbean, ล่องเรือผ่าน Makeshift Jungle หรือสนุกไปกับการผจญภัยล่องเรือแม่น้ำของ Mark Twain

โตเกียวดิสนีย์ซีนั้นตั้งอยู่ที่โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ทเช่นกัน ที่ซึ่งสร้างขึ้นมาสำหรับประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ สัมผัสประสบการณ์การผจญภัยต่าง ๆ อาทิ การล่องเรือกอนโดลาแบบฉบับชาวเวนิส, ทริปสั้น ๆ ไปกับรถไฟฟ้าของดิสนีย์ซี หรือพักผ่อนหย่อนใจไปกับการล่องเรือพลังไอน้ำ คุณยังสามารถทำให้เด็ก ๆ ตื่นตาตื่นใจได้ไปกับการผจญภัยของ Toy Story หรือเดินทางไปกับรถปิ๊กอัปแบบฉบับคลาสสิกไปรอบ ๆ เขตชายฝั่งสไตล์อเมริกัน (American Waterfront) นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับการผจญภัยของ Nemo and Friends SeaRider ได้อีกด้วย 

ทางเข้าหลักของดิสนีย์แลนด์เจแปนและดิสนีย์ซี (Disneyland Japan and DisneySea) นั้นอยู่ใกล้ ๆ กับสถานี Tokyo Disneyland Station และ Maihama Station เมื่อเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนาริตะ (Narita Airport) ให้นั่งรถไฟความเร็วสูงหรือ Skyliner เพื่อไปยังสถานี Nippori Station เมื่อไปถึงสถานีดังกล่าว ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถไฟสาย JR Yamanote Line เพื่อเดินทางไปยังสถานี Tokyo Station เมื่อถึงสถานี Tokyo Station ให้เปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย JR Keiyo Line คุณยังสามารถเลือกเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย JR Musashino Line เพื่อเดินทางไปยังสถานี Maihama Station ได้ด้วย

โตเกียว - จุดหมายปลายทางสำหรับทุก ๆ คน 

โตเกียวนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของสถานที่ที่เหมาะแก่การบันทึกภาพแห่งความประทับใจมากที่สุด แต่มหานครแห่งไม่ได้มีดีแค่นั้น เพราะยังมีการผจญภัยสนุก ๆ นับไม่ถ้วนรอคุณอยู่ ณ ที่แห่งนี้อีกด้วย ที่ซึ่งเหมาะสำหรับผู้คนทุกวัยตั้งแต่คนหนุ่มสาวไปจนถึงผู้สูงวัย มหานครแห่งนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่แสวงหาจุดหมายปลายทางแบบดั้งเดิมและสมัยใหม่ต่าง ๆ ที่มีให้เลือกตั้งแต่สวนสนุก, พิพิธภัณฑ์ดิจิทัล ไปจนถึงการแสดงดอกไม้ไฟริมแม่น้ำอันตระการตา โตเกียวจัดให้คุณได้หมด นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาวิวแบบพาโนรามาที่รับชมได้จากอาคารที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น

เริ่มวางแผนการเดินทางของคุณกันได้เลย หากคุณต้องการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวยอดเยี่ยมต่าง ๆ ที่โตเกียวสามารถมอบให้คุณได้